อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4/60 บริษัทจะไม่มีการบันทึกด้อยค่าสินทรัพย์ หลังจากที่ในไตรมาส 3/60 ได้ตั้งด้อยค่าสินทรัพย์ของโครงการมาเรียนา ออยล์ แซนด์ จำนวน 558 ล้านเหรียญสหรัฐ จนทำให้มีผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 264 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 8.86 พันล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมที่จะหมดอายุสัมปทานในปี 65-66 คือ แหล่งบงกชและเอราวัณนั้น เบื้องต้นคาดว่ารัฐบาลอาจจะยังไม่สามารถออกประกาศเอกสารเชิญชวนประมูล (TOR) ได้ทันสิ้นปีนี้ ซึ่งการประกาศ TOR ที่ล่าช้าออกไปจะทำให้บริษัทมีระยะเวลาในการเตรียมงานต่าง ๆ สั้นลง โดยเฉพาะการวางแผนลงทุนล่วงหน้าในการขุดเจาะสำรวจปิโตรเลียมในหลุมผลิตใหม่เพิ่มเติม
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้แม้จะยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการเปิดประมูลแหล่งปิโตรเลียมดังกล่าวก็ตาม แต่บริษัทก็ยังคงรักษาระดับอัตราการผลิตปิโตรเลียมในแหล่งบงกช ซึ่งเป็นพื้นที่สัมปทานของบริษัทในปัจจุบัน เพื่อรักษาระดับการผลิตตามสัญญาซื้อขายประมาณ 800-900 ล้านลูกบาศก์ฟุต/วัน อีกทั้งยังเดินหน้าขุดเจาะหลุมผลิตเพิ่มเติมอยู่ ขณะที่การทยอยลดระดับการผลิตจะเริ่มขึ้นในช่วง 2 ปีสุดท้ายก่อนหมดอายุสัมปทาน
ปัจจุบันบริษัท อยู่ระหว่างการจัดทำแผนลงทุน 5 ปี (ปี 61-65) ซึ่งจะต้องนำเสนอให้คณะกรรมการบริษัทพิจารณาก่อนที่จะมีประกาศสู่สาธารณะต่อไป