นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) คาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/60 จะได้รับผลดีจากกำไรสต็อกน้ำมันที่มีจำนวนมาก หลังจากราคาน้ำมันดิบดูไบตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ธ.ค.จนถึงปัจจุบันอยู่ในระดับที่สูงกว่า 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งมีแนวโน้มสูงกว่าระดับปิดในสิ้นไตรมาส 3/60 แม้ค่าการกลั่น (GRM) จะอ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ได้รับปัจจัยบวกจากพายุเฮอร์ริเคนทำให้ค่าการกลั่นสูงกว่าปกติ ขณะที่ส่วนต่าง (สเปรด) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีโดยรวมยังทรงตัวเมื่องเทียบกับไตรมาสก่อน
"ไตรมาสนี้เรามี stock gain ราคาน้ำมัน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคมเกิน 60 เหรียญฯ สิ้นปีมีโอกาสที่จะเกินระดับ 60 เหรียญฯ ก็จะทำให้เรามีกำไรจากสต็อก แต่ในส่วนของค่าการกลั่นอ่อนตัวลงเล็กน้อยเทียบกับไตรมาสก่อน ส่วนปิโตรเคมีก็ทรง ๆ แต่เราก็มี stock gian มาช่วย"นายสุกฤตย์ กล่าว
นายสุกฤตย์ กล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าของการลงทุนโครงการ BEYOND EVEREST จะมีความชัดเจนมากขึ้นในไตรมาส 1/61 หลังจากที่เบื้องต้นตัดสินใจที่จะลงทุนเพียงโครงการก่อสร้างโรงงานพาราไซลีน (PX) ขนาด 9 แสนตัน/ปี มูลค่าลงทุนราว 900 ล้านเหรียญสหรัฐ เบื้องต้นพบว่าคุ้มค่ากับการลงทุน
อนึ่ง IRPC มีกำไรสุทธิในไตรมาส 3/60 ที่ระดับ 3.25 พันล้านบาท โดยมีกำไรจากสต็อกน้ำมันสุทธิ 561 ล้านบาท แบ่งเป็น กำไรจากสต็อกราว 1 พันล้านบาท แต่มีผลขาดทุนจาก Oil Hedging 455 ล้านบาท ขณะที่มี GRM ไม่รวมผลกระทบจากสต็อกน้ำมันอยู่ที่ 5.91 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ส่วนกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่ม (GIM) ซึ่งรวมธุรกิจปิโตรเคมีและไฟฟ้า แต่ไม่รวมผลกระทบจากสต็อก อยู่ที่ระดับ 15.05 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดูไบ ณ สิ้นไตรมาส 3/60 คิดจากราคาเฉลี่ยของเดือน ก.ย.60 อยู่ที่ 53.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล
ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์โดยประเมินผลประกอบการในไตรมาส 4/60 ของ IRPC จะดีต่อเนื่อง แม้ค่าการกลั่นจะอ่อนตัวลง แต่ผลประกอบการหลักของ IRPC อยู่ที่ปิโตรเคมีซึ่งมีปริมาณการผลิตที่สูงขึ้นจากผลบวกของโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) และการขยายกำลังการผลิตของโพลีโพรพิลีน (PP) ขณะที่การปรับตัวสูงขึ้นของราคาน้ำมันจะทำ IRPC ได้ประโยชน์จากการเกิด stock gain อีกด้วย