MBKET ให้เป้า SET Index ปี 61 สูงสุดที่ 1,870 จุด รับผลบวกเศรษฐกิจฟื้น,หวัง Fund Flow ไหลเข้าหนุน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 19, 2017 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (MBKET) ประเมินแนวโน้มการลงทุนในตลาดหุ้นไทยปี 2561 จะยังปรับตัวขึ้นได้ต่อ โดยประเมินครึ่งปีแรก จะปรับตัวขึ้นเด่นกว่าครึ่งปีหลัง ที่มีปัจจัยเสี่ยงด้านการเมืองรออยู่ สำหรับดัชนีเป้าหมายปีหน้าประเมินในกรณีฐาน (base case) ที่ 1,760 จุด เทียบเคียง PE Ratio 16 เท่า และกรณีดีสุด (best case) ที่ 1,870 จุด เทียบเคียง PE Ratio 17 เท่า โดยเน้น Theme การลงทุนที่น่าสนใจ คือ 1) เศรษฐกิจโลกปี 2561 ฟื้นตัว แนะสะสมกลุ่ม Logistic เลือก WICE, PORT เด่น และ 2) การบริโภคของชนชั้นกลางเร่งตัวขึ้น แนะสะสมกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ (AP, CPN,LPN, GOLD) และกลุ่มสื่อโฆษณา (MACO, VGI) ผสานหุ้น Big Caps ที่น่าสนใจ นำโดย BANK (BBL, KBANK), ENERG (PTT, PTTEP), PETRO (IVL, PTTGC) และค้าปลีก (BJC, CPALL) เด่น

สำหรับปีนี้ดัชนี SET ปรับตัวขึ้นราว 11% โดยปรับขึ้นเด่นในช่วงปลายปี ตอบรับสัญญาณเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวขึ้น โดยหากอธิบายจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ซึ่งประกอบด้วยฟันเฟืองหลัก 4 ตัว คือ 1) การบริโภคในประเทศ 2) การลงทุนภาคเอกชน 3) การใช้จ่ายภาครัฐฯ และ 4) การส่งออกสุทธิ จะพบว่าตัวหลักที่มีสัญญาณเชิงบวกมากสุดคือ การส่งออกสุทธิ ซึ่งพบว่า ยอดรวมการส่งออก 10 เดือนแรกปี 2560 มีมูลค่าถึง 195,518 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 9.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทำจุดสูงสุดในรอบ 6 ปี ซึ่งคาดปีหน้าการส่งออกไทยยังสามารถเติบต่อไปต่อเนื่องอีกราว 5-6% ขานรับภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ฟื้นตัวทั้งใน สหรัฐฯ ยุโรป รวมถึง จีน

ด้านการบริโภคในประเทศปีนี้เริ่มเห็นสัญญาณการเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/60 เป็นต้นมา โดยสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เร่งตัวขึ้น 4 เดือนติดต่อกัน ล่าสุดมาอยู่ที่ระดับ 78 จุด รวมถึงตัวเลขอัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (% same store sale growth : %SSSG) ในกลุ่มค้าปลีกหลาย ๆ บริษัทที่สามารถพลิกกลับมาเป็นบวกได้ ถือเป็นตัวบ่งชี้ภาคการบริโภคที่เริ่มกลับมา โดยในปีหน้า คาดว่าแรงหนุนจากการบริโภคในประเทศยังคงมีทิศทางขาขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงครึ่งปีแรก ที่ได้อานิสงส์จากช่วง High Season และการรับประโยชน์จากฐานต่ำ เมื่อเทียบกับการบริโภคในปี 2560 คาดเป็นตัวเร่งแนวโน้มเศรษฐกิจไทยขยายตัว

ขณะที่ปัจจัยอีก 2 ตัว คือ การใช้จ่ายภาครัฐฯ รวมถึงการลงทุนภาคเอกชน ซึ่งถือว่าทำได้ไม่ค่อยดีนักในปีนี้ อย่างไรก็ดี คาดปีหน้ามีแนวโน้มจะดีขึ้นกว่าปีนี้ โดยสังเกตได้จาก โครงการประมูลภาครัฐฯในปีหน้าที่คาดจะฟื้นตัวขึ้น ซึ่งเมย์แบงก์ฯ คาดจะมีเม็ดเงินประมูลปี 2561 ราว 9 แสนล้านบาท ผสานกับความคืบหน้าที่มากขึ้นในการผลักดันโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถือเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุนเพิ่มเติม

ส่วนปัจจัยต่างประเทศ จากแนวโน้มความไม่แน่นอนทางด้านนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการเปลี่ยนประธานเฟด ในช่วงต้นเดือน ก.พ. จากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน มาเป็น นายเจอโรม พาวเวล รวมถึงคะแนนเสียงที่ค่อนข้างสูสีในวุฒิสภาสหรัฐฯ ถือเป็นแรงกดดันต่อการขับเคลื่อนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯต่าง ๆ ออกมา ถือเป็นปัจจัยบวกต่อประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนา (EM) กลับดูน่าสนใจมากกว่า ซึ่งอาจเป็นตัวขับเคลื่อน Fund Flow ไหลเข้าไทยในปีหน้าได้ ส่วนปัจจัยสุดท้ายคงต้องฝากความหวังไว้กับการเลือกตั้งของไทย ซึ่งหากสามารถเป็นไปได้ตามแผนคือ ช่วงเดือน พ.ย. ปีหน้า ก็จะเป็นแรงผลักดันการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า ขณะที่หากมีการเลื่อนออกอาจเป็น Downside Risk ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ