ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,738.70 จุด เพิ่มขึ้น 1.79 จุด (+0.10%) มูลค่าการซื้อขาย 17,783.25 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,742.18 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,736.26 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบ แต่ภาพรวมยังมี Sentiment เชิงบวกจากปัจจัยหนุนภายในประเทศ เช่น การเข้าซื้อของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) อีกทั้งสัปดาห์หน้ายังมีเรื่องของการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (window dressing) แต่มูลค่าการซื้อขายจะเบาบางลงเนื่องจากเป็นช่วงปลายปีที่เข้าใกล้วันหยุดเทศกาล ส่งผลให้บทบาทของนักลงทุนต่างชาติลดลงด้วย
ด้านตลาดภูมิภาคเอเชียเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ยกเว้นตลาดหุ้นอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่อยู่ในกลุ่ม TIP เคลื่อนไหวในแดนลบ
ส่วนแนวโน้มตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่าย คาดว่าการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยแนะนำให้ขาย take profit บางส่วนหากมีกำไร ทั้งยังให้ติดตามประเด็นภายในประเทศ และความคืบหน้าเรื่องการปฏิรูปกฎหมายภาษีสหรัฐ และการตอบโต้จากสหรัฐหลังที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UN) ลงมติไม่เห็นด้วยกรณีสหรัฐรับรองเยรูซาเลม เป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐขู่ตัดความช่วยเหลือด้านการเงินในประเทศที่ไม่เห็นด้วย
พร้อมให้แนวต้าน 1,742-1,745 จุด ส่วนแนวรับ 1,732 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
BGRIM มูลค่าการซื้อขาย 1,253.69 ล้านบาท ปิดที่ 27.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 866.08 ล้านบาท ปิดที่ 488.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 821.88 ล้านบาท ปิดที่ 19.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
IVL มูลค่าการซื้อขาย 560.51 ล้านบาท ปิดที่ 53.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 559.79 ล้านบาท ปิดที่ 233.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง