โบรกเกอร์เห็นพ้อง"ซื้อ"หุ้น บมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล (PTTGC) เล็งไตรมาส 4/60 กำไรจากการดำเนินงานจะทำ New High ในระดับกว่า 1 หมื่นล้านบาท หลังได้ปัจจัยหนุนจากธุรกิจปิโตรเคมีสายโอเลฟินส์ที่ราคา HDPE ปรับเพิ่มขึ้น ช่วยชดเชยส่วนต่าง (สเปรด) ปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ และค่าการกลั่นของธุรกิจโรงกลั่นที่อ่อนตัวลง ประกอบกับ การใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น หลังมีแผนหยุดซ่อมบำรุงน้อยในไตรมาสนี้
ส่วนแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 61 คาดดีขึ้นจากปีนี้หลังเดินเครื่องโรงปิโตรเคมีและโรงกลั่นเพิ่มขึ้น เหตุไม่มีแผนชัทดาวน์ และรับส่วนแบ่งกำไรเต็มปีจากเข้าซื้อธุรกิจปิโตรเคมีของกลุ่ม บมจ.ปตท.(PTT) รวมถึงกำลังการผลิตใหม่ของโครงการ mLLDPE เข้ามาในไตรมาส 1/61 ช่วยชดเชยสเปรดผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีที่อาจอ่อนตัวลงบ้างหลังสเปรดหลายผลิตภัณฑ์ปรับขึ้นมามากในปีนี้
ด้านราคาหุ้น PTTGC แม้ว่าจะปรับตัวขึ้นมาในช่วงนี้ แต่ก็ยังไม่มากนักเมื่อเทียบกับราคาเป้าหมาย ขณะที่ความผันผวนธุรกิจน้อยกว่าเมื่อเทียบกับหุ้นอื่น
พักเที่ยง ราคาหุ้น PTTGC อยู่ที่ 84.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.90% ขณะที่ดัชนีหุ้นไทย ปรับขึ้น 0.10%
โบรกเกอร์ คำแนะนำ ราคาเป้าหมาย (บาท/หุ้น) ไอร่า ซื้อ 105 หยวนต้า (ประเทศไทย) ซื้อ 98 เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ซื้อ 92 เอเอสแอล ซื้อ 92 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ซื้อ 90 ฟิลลิป (ประเทศไทย) ซื้อ 90
นายเบญจพล สุทธิ์วนิช รองกรรมการผู้จัดการ สายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเอสแอล เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจของ PTTGC ในไตรมาส 4/60 มีโอกาสที่กำไรจากการดำเนินงานจะทำ New High ในระดับกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 3/60 ที่มีกำไรสุทธิ 9.95 พันล้านบาท หลัก ๆ มาจากธุรกิจปิโตรเคมีในสายโอเลฟินส์ ที่ราคา HDPE ปรับเพิ่มขึ้นมาเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และงวดปีก่อน จนขณะนี้อยู่ที่ 1,221 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ซึ่งถ้าราคาน้ำมันยังยืนในระดับสูง ราคา HDPE ก็จะยังมีโอกาสที่จะปรับขึ้นได้อีก
สำหรับค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลงในไตรมาส 4/60 ราว 12% มาอยู่บริเวณ 7.3 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรลนั้น ก็ยังถือว่าค่าการกลั่นยังทรงตัวได้ดีกว่าไตรมาส 4/59 ที่อยู่ 6.7 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ส่วนธุรกิจปิโตรเคมีสายอะโรเมติกส์ สเปรดผลิตภัณฑ์พาราไซลีน-คอนเดนเสท ปรับตัวลง 6% มาอยู่ที่ 359 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน และสเปรดเบนซีน-คอนเดนเสท ทรงตัวที่ 319 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน มองว่าธุรกิจปิโตรเคมีในสายโอเลฟินส์ที่เติบโตได้ดี จะสามารถชดเชยธุรกิจสายอะโรเมติกส์ และค่าการกลั่นที่อ่อนตัวลงได้
อย่างไรก็ตาม สเปรดหลายผลิตภัณฑ์ได้ปรับตัวสูงเกินไปหมดแล้ว ทำให้ในปีหน้าอาจเห็นการอ่อนตัวลงบ้าง แต่ผลการดำเนินงานของ PTTGC ในปีหน้าก็ยังเติบโตได้ จากโครงการ Asset Injection ซึ่งจะรับรู้ผลประโยชน์ได้อย่างเต็มปี หลังจากที่ได้เข้าซื้อหุ้น 6 บริษัทในธุรกิจปิโตรเคมีสายโพรพิลีน สายเคมีภัณฑ์ชีวภาพ ของกลุ่ม PTT แล้วเสร็จเมื่อกลางปี 60
ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรปกติของ PTTGC ในปีนี้ที่ระดับ 3.65 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นจากกำไรปกติของปี 59 ที่อยู่ระดับ 2.17 หมื่นล้านบาท และในปี 61 คาดว่าจะมีกำไรปกติ 3.73 หมื่นล้านบาท ซึ่งราคาน้ำมันที่สูงขึ้นทำให้ PTTGC อาจจะมีกำไรจากสต็อกผลิตภัณฑ์ (Stock gain) มาช่วยหนุนได้ด้วย
"ราคาหุ้น PTTGC แม้ว่าจะปรับตัวขึ้นมาแต่ก็ยังไม่มาก เพราะหุ้นตัวนี้จะมีลักษณะของการขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไปเหมือนกับธุรกิจที่ทำ เรียกได้ว่าเป็น คอมเพล็กซ์ ก็ได้ ที่มีความผันผวนธุรกิจน้อยกว่าตัวอื่น ความเสี่ยงน้อย"นายเบญจพล กล่าว
ด้าน บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น PTTGC มองแนวโน้มกำไรไตรมาส 4/60 จะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน จากการใช้กำลังการผลิตของโรงงานปิโตรเคมีที่อยู่ในระดับสูง และราคา HDPE ที่ยังแข็งแกร่งในไตรมาส 4 ช่วยชดเชยกับค่าการกลั่นที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 3/60
ด้านแนวโน้มผลการดำเนินงานปี 61 คาดจะปรับตัวดีขึ้นจากปีนี้ จากการเดินเครื่องของโรงงานปิโตรเคมีและโรงกลั่นเพิ่มขึ้น เพราะไม่มีแผนปิดซ่อมบำรุงใหญ่ และรับส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Asset Injection ราว 2.4-3.0 พันล้านบาทได้ เต็มปี รวมถึงส่วนเพิ่มจากการผลิต mLLDPE ในไตรมาส 1/61 โดย mLLDPE มีราคาเฉลี่ยที่สูงกว่า LLDPE ราว 100-150 เหรียญสหรัฐ/ตัน
ขณะที่บทวิเคราะห์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มกำไรจากการดำเนินงานของ PTTGC ในไตรมาส 4/60 คาดฟื้นตัวต่อ หนุนโดยธุรกิจโอเลฟินส์ตามการใช้กำลังการผลิต เนื่องจากเป็นไตรมาสที่มีแผนหยุดซ่อมบำรุงน้อยที่สุด อีกทั้ง ราคา HDPE ตั้งแต่ต้นไตรมาส 4 ถึงปัจจุบันได้ปรับขึ้น 6.7% เมื่อเทียบไตรมาสก่อน เพียงพอที่จะชดเชยผลประกอบการจากธุรกิจโรงกลั่นที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง ตามค่าการกลั่นในไตรมาส 4 จนถึงปัจจุบันที่ลดลง 11% จากไตรมาสก่อน