บล.เคทีบี (ประเทศไทย) (KTBST) ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (3-5 ม.ค.) คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรช่วงสั้น แต่ด้วยดัชนีตลาดหุ้นเอเชียที่ส่วนใหญ่เปิดซื้อขายในแดนบวกในวันแรก ราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ขึ้นแตะ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จะเป็นแรงหนุนให้กับตลาดหุ้นไทย โดยหุ้นกลุ่มหลักยังมีโอกาสไปต่อแต่อาจมีการสลับกลุ่มเข้าซื้อขายในแต่ละวัน KTBST เน้นไปที่หุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวมากขึ้น โดยประเมินกรอบเคลื่อนไหวของดัชนีฯสัปดาห์นี้ไว้ที่ 1,740-1,770 จุด
โดยมองหุ้นที่น่าสนใจสัปดาห์นี้ ได้แก่ RS ที่เข้ามีธุรกิจความงามซึ่งมีมาร์จิ้นสูง, หุ้น DELTA ให้ความสนใจหลังราคาปรับตัวลงมามาก แต่ธุรกิจของบริษัทอยู่ในทิศทางที่มีการเติบโต คือ EV car และ internet of things ส่วนหุ้นในกลุ่มอื่น ประกอบด้วย SAT, PTTEP และ CENTEL รวมไปถึงหุ้นที่มีความเสี่ยงต่ำ เช่น โรงไฟฟ้า GULF และ BGRIM
อย่างไรก็ตาม เราให้น้ำหนักลงทุนที่น้อยลง หรือให้ระวังแรงขายทำกำไรช่วงสั้นหุ้นที่ราคาปรับขึ้นมามากในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา อาทิ AOT , BANPU
สำหรับปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ติดตามรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายกาเรงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC Minute) ในวันที่ 4 ม.ค. โดยคาดว่าจะคงการปรับประมาณการเศรษฐกิจเพิ่มเติมในปี 61-62 ตลอดจนมุมมองเงินเฟ้อที่ฟื้นตัวดีขึ้น ในขณะที่ตัวเลขอื่นๆ เริ่มจากวันที่ 3 ม.ค.จะมีการรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อ (ISM PMI) ภาคอุตสาหกรรม คาดว่าจะออกมาที่ 58.1 ทรงตัวจากช่วงก่อนหน้าที่ 58.2 และในวันที่ 4 จะมีการรายงานการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐ (ADP employment change) โดยคาดว่าจะทรงตัวที่ 190,000 ราย
จากนั้นในวันที่ 5 จะมีการรายงานดุลการค้าของสหรัฐคาดว่าจะออกมาขาดดุล 4.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ลดการดุลลงจากช่วงก่อนหน้า และอัตราการว่างงานคาดว่าจะออกมาที่ 4.1% คงที่จากช่วงก่อนหน้า และ ISM PMI นอกภาคการผลิต คาดว่าจะทรงตัวเช่นกันที่ 57.6 รวมถึงตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯที่เปลี่ยนแปลงจากเดือนที่ผ่านมาในทุกธุรกิจต่างๆ ที่ไม่รวมอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งจะประกาศวันที่ 5 ม.ค. ตลาดคาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 190,000 ราย
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ ปรับตัวสูงขึ้นแตะ 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล หลังมีการประท้วงรัฐบาลโดยประชาชนอิหร่าน ที่อาจลามไปถึงการผลิตน้ำมันของอิหร่านเอง และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯที่ลดลง แม้อาจมีผลช่วงสั้นๆ แต่นักลงทุนส่วนใหญ่ ยังคงตอบรับต่อการลดกำลังผลิตของ OPEC อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงต่อเนื่อง โดย Dollar Index ลดลง 1.6% ในช่วง 5 วันที่ผ่านมา ทั้งราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและการอ่อนค่าของดอลลาร์เป็นบวกต่อหุ้นน้ำมันและปิโตรเคมีในช่วงนี้ด้วย