(เพิ่มเติม) "คีรี"มั่นใจ U จะให้ผลตอบแทน 35% ใน 5 ปี หลังรับโอนสินทรัพย์อสังหาฯเพิ่มเป็น 5.2 หมื่นลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 4, 2018 18:15 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บมจ.ยู ซิตี้ (U) เปิดเผยต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น U ว่า มีความมั่นใจว่า U จะให้ผลตอบแทน (return) 35%ในช่วง 5 ปี (ปี 61-65) หรือเฉลี่ยปีละ 7% จากที่บริษัทจะมีสินทรัพย์เพิ่มขึ้นมาเป็น 52,000 ล้านบาท จากที่ได้รับโอนกิจการทั้งหมดจากบริษัท ยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (UE) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) ที่มีมูลค่า 12,917 ล้านบาท โดยคาดว่ากระบวนการจะเสร็จสิ้นในไตรมาส 1/61

"5 ปีข้างหน้า return ได้ 35% เฉลี่ยปีละ 7%... ทำไมมั่นใจได้ 35% เมื่อก่อนหุ้นเก่าที่คิดว่าจะเป็น wall paper ในเดือนมี.ค.นี้ asset เราจะเปลี่ยนโฉมมีกว่า 50,000 ล้านบาท ยู ซิตี้จะไม่เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ธรรมดา ไม่ใช่สร้างแล้วขาย"นายคีรี กล่าว

นายคีรี กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีธุรกิจ 4 ด้าน ได้แก่ 1) ธุรกิจบริหารจัดการโรงแรม ทั้งในยุโรปและเอเชีย รวมจำนวนกว่า 19,000 ห้อง โดยมีที่เซ็นสัญาแล้วและกำลังก่อสร้าง และบริหารแล้ว จากเดิมมีจำนวนราว 6,000 ห้อง ที่จะเริ่มมีรายได้เข้ามาปีนี้ 2) ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้า ที่ได้ร่วมทุนกับบมจ.แสนสิริ (SIRI) สัดส่วน 50:50 โดยได้พัฒนาและขายแล้ว 21 โครงการ

3) ธุรกิจลงทุนอสังหาริมทรัพย์ระยะยาว ซึ่งเป็นการลงทุนสินทรัพย์ที่มีรายได้อยู่แล้ว ได้แก่ อาคารสำนักงานในอังกฤษ และ 4) ธุรกิจใหม่ที่เกี่ยวข้องอสังหาริมทรัพย์ โดยจะร่วมทุนกับพันธมิตรที่มีความชำนาญธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจโรงเรียนนานาชาติ ที่ใช้ที่ดินบนโครงการธนาซิตี้ ธุรกิจโรงแรมที่ดำเนินธุรกิจในชื่อโรงแรมอีสติน ที่สาทร

ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้ในปี 61 ประมาณ 6,000 ล้านบาท จากในงวด 9 เดือนแรกของปี 60 มีรายได้ราว 2,800 ล้านบาท โดยรายได้ปีนี้ส่วนใหญ่มาจากการบริหารจัดการโรงแรมกลุ่มเวียนนา เฮ้าส์ในยุโรป และธุรกิจโรงแรมในประเทศ

ส่วนผลขาดทุนสะสมที่มีอยู่ราว 10,000 ล้านบาทนั้น บริษัทจะดำเนินการแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด โดยคาดว่าจะใช้แนวทางลดพาร์ ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 1 บาท/หุ้น แต่ตามกฎของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) สามารถลดพาร์ได้ต่ำสุดที่ 0.50 บาท/หุ้น หากลดพาร์แล้วยังไม่พอ อาจจะใช้แนวทางรวมหุ้นก่อนแล้วค่อยลดพาร์ในลำดับต่อไป

"ในปีนี้เราจะลดพาร์ เพื่อลดขาดทุนสะสม คิดว่าน่าจะเสร็จในปีนี้ เราเคลียร์ตัวเองก่อน ก็จะได้จ่ายเงินปันผลได้ "นายคีรี กล่าว

นายคีรี ยังกล่าวว่า บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาซื้อกิจการโรงแรมแถบยุโรปใต้ อาทิ อิตาลี สเปน เป็นต้น เพราะราคายังไม่สูงขึ้นมาก และการท่องเที่ยวในยุโรปก็เริ่มฟื้นตัว ซึ่งขณะนี้มีนักท่องเที่ยวจากรัสเซียเดินทางเข้ามามาก อีกทั้งจะเป็นการต่อยอดธุรกิจโรงแรมที่ก่อนหน้านี้ได้ซื้อกิจการโรงแรมในแถบยุโรปตะวันออก 37 แห่ง มูลค่า 330 ล้านยูโร หรือ ประมาณ 1.2 หมื่นล้านบาท และมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ปีละ 28 ล้านยูโร หรือประมาณกว่า 1 พันล้านบาท

ขณะที่ นายคีรี ระบุว่า ได้ตัดสินใจแล้วว่า BTS จะไม่ดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่จะให้ U เป็นผู้ดำเนินธุรกิจดังกล่าวแทนที่จะมีแต่ทรัพย์สินที่ดี ซึ่งส่วนหนึ่งทรัพย์สินมาจาก BTS ส่วน BTS จะมุ่งมั่นทำธุรกิจรถไฟฟ้าซึ่งธุรกิจรถไฟฟ้าต้องดำเนินธุรกิจร่วมกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

เช่นเดียวกับ การถือหุ้นใน บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (NMG) บริษัทคงไม่ลงทุนต่อ และพิจารณว่าจะขายออกได้อย่างไร และเห็นว่า U ก็ไม่ควรเข้าลงทุนธุรกิจสื่อ เพราะไม่ใช่เรื่องง่าย เป็นธุรกิจซับซ้อน ที่สำคัญไม่ใช่ธุรกิจหลักหรือเป็นธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

อนึ่ง U ถือหุ้น NMG จำนวน 331,607,100 หุ้น คิดเป็น 8.15% ( ณ วันที่ 4 เม.ย. 60)

นางสาวปิยพร พรรณเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร U คาดว่า U จะพลิกกลับมามีกำไร ในไตรมาส 4/60 เนื่องจากมีรายได้จากเวียนนาเฮ้าส์ หลังจากเข้าซื้อมาได้ 4 เดือนแล้ว แต่ทั้งปี 60 ยังน่าจะมีผลขาดทุนอยู่ ส่วนปีหน้าคาดว่าพลิกกลับมาเป็นมีกำไร

งวด 9 เดือน U มีผลขาดทุน 1,050 ล้านบาท รายได้ 2.8 พันล้านบาท และมีสินทรัพย์ 4 หมื่นล้านบาท หนี้สินรวม 2.2 หมื่นล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 1.8 หมื่นล้านบาท

นางสาวปิยพร กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งงบลงทุน 1.5 หมื่นล้านบาทสำหรับในชใช้ในช่วง 4-5 ปี ไม่นับดีลซื้อกิจการ โดยปัจจุบันมี 3 โครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาและกำลังจะพัฒนา ได้แก่ โครงการพัฒนา"เดอะ ยูนิคอร์น" (โครงการพญาไท) เป็นอาคารคอมเพล็กซ์อเนกประสงค์ 51 ชั้น ประกอบด้วยเซอร์วิสเรสซิเดนท์, อาคารสำนักงาน พื้นที่การค้า โรงแรม ,โครงการร้อยชักสาม เป็นโรงแรมหรูระดับ5 ดาว และโครงการพัฒนาโรงเรียนนานาชาติ

อนึ่ง ในวันนี้ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น U อนุมัติรับโอนกิจการทั้งหมดของ UE มูลค่า ณ วันที่ 30 มิ.ย. 60 ที่ 12,917 ล้านบาท แบ่งเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าประเมิน 2,172 ล้านบาท และหนี้ที่ BTS ให้กู้ยืม จำนวน 10,745 ล้านบาท โดยคาดว่าในเดือน มี.ค. 61 มูลค่าที่โอนกิจการจะไม่เกิน 12,328 ล้านบาท ดังนั้น จึงได้จัดหาแหล่งเงินจากการเพิ่มทุนจำนวนรวม 17,645 ล้านบาท

โดยในที่ประชุมดังกล่าวได้อนุมัติการเพิ่มทุนด้วยการออกหุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุนจำนวน 560.46 ล้านหุ้น เสนอขายให้ธนาคารกรุงเทพ (BBL) จำนวน 26.38 ล้านหุ้นในราคาหุ้นละ 0.034 บาท รวมเป็นเงิน 897 ล้านบาท และได้ให้ U-W3 จำนวนไม่เกิน 13.19 ล้านหน่วย ซึ่ง U-W3 จะไม่เทรดในกระดาน

และจัดสรรให้ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) จำนวน 470.20 ล้านหุ้น ในอัตราส่วน 5 หุ้นสามัญ/บุริมสิทธิเดิม ต่อ 4 หุ้นบุริมสิทธิเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.031 บาท รวมเป็นเงิน 14,576 ล้านบาท โดย BTS จะได้รับการจัดสรรไม่เกิน 160 ล้านหุ้น เป็นเงิน 4,962 ล้านบาท และ BBL ไม่เกิน 21 ล้านหุ้น เป็นเงิน 654 ล้านบาท และผู้ถือหุ้นอื่นไม่เกิน 289 ล้านหุ้นโดยได้ U-W4 จำนวนไม่เกิน 235,098 ล้านหน่วย

นอกจากนี้จัดสรรให้ UE จำนวน 63.88 ล้านหุ้น ราคา 0.034 บาท/หุ้นได้ U-W3 จำนวนไม่เกิน 31,941 ล้านหน่วย

โดยหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิรับเงินปันผลในช่วงปี 61-65 ในอัตรา 0.0022 บาท/หุ้นบุริมสิทธิ และภายหลังวันที่ 31 ธ.ค.65 ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิสามารถแปลงหุ้นบุริมสิทธิเป็นหุ้นสามัญได้ทุกไตรมาสในอัตราส่วน 1 หุ้นบุริมสิทธิต่อ 1 หุ้นส่มัญ

ทั้งนี้ หลังเพิ่มทุนแล้ว BTS จะมีสัดส่วนถือหุ้นใน U เพิ่มขึ้นเป็น 37% จาก 35.64% ในปัจจุบัน ขณะที่ BBL จะเข้ามาถือหุ้น 4.23% โดยจะไม่ถือเกิน 4.49% ขณะที่ U หากเพิ่มทุนได้สำเร็จจะทำให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) จะลดลงมาจาก 1.19 เท่า เป็น 0.59 เท่า

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหุ้น U อนุมัติขายสินทรัพย์ของบริษัท จำนวน 8 รายการที่ประกอบด้วย ที่ดินเปล่า อาคาร และหุ้นในบริษัทย่อย ในราคาขายรวมทั้งสิ้น ไม่ต่ำกว่า 4,139.62 ล้านบาท ได้แก่ ที่ดินเปล่าหลายแปลง และอาคาร รวมถึงหุ้นสามัญของบริษัทย่อยที่ U ถือหุ้นทั้ง 100% ได้แก่ บริษัท เอ็นพาร์ค โกลบอลโฮลดิ้ง จำกัด (NGH) บริษัท บุญบารมีเมตตา พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (BMP) บริษัท เอ็มเอชจี เอ็นพาร์ค ดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (MHG) และบริษัท ขอนแก่นบุรี จำกัด (KB)


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ