ATP30 ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 15% ลูกค้าเดิมโต-ลูกค้าใหม่หนุน,อัตรากำไรสุทธิเพิ่มเป็นไม่ต่ำกว่า 10%

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 5, 2018 10:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอทีพี 30 (ATP30) ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) เปิดเผยกับ "อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 61 ไม่รวมลูกค้ารายใหม่เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% โดยจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีจากการให้บริการกับ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) ด้วยรถตู้ปรับอากาศจำนวน 7 คัน ที่เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.60 และได้เริ่มให้บริการกับบริษัท บริดจสโตน สเปเชียลตี้ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด (BSTMT) ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 61

นอกจากนี้ยังมีลูกค้าอีก 2 ราย ที่จะเริ่มให้บริการในเดือน ก.พ. 61 คือ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) ซึ่งจะให้บริการด้วยรถมินิบัสปรับอากาศจำนวน 6 คัน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. 61 และ บมจ.ไทยออยล์ (TOP) จะให้บริการด้วยรถบัสปรับอากาศจำนวน 8 คัน เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.61

พร้อมกันนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหม่อีก 2-3 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าขนาดกลางที่มีความต้องการใช้รถอยู่ราว 10 คันต่อราย โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงเดือน ก.พ.นี้ และยังจะเจรจากับลูกค้ารายใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มจำนวนรถให้บริการรับส่งพนักงานอีกอย่างน้อย 40 คันในปีนี้ ด้วยงบลงทุนราว 150 ล้านบาท จากปัจจุบันบริษัทมีรถให้บริการอยู่กว่า 200 คัน

"ปีนี้จะเป็นปีที่ดีสำหรับเรา เพราะมีลูกค้าที่เราทำสัญญาแล้วมาเริ่มเดินรถในปีนี้ และลูกค้าที่เริ่มให้บริการในปีก่อนก็จะเข้ามาเต็มปีในปีนี้อีกด้วย พร้อมกันนี้ ยังเชื่อว่าจะมีลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ด้วยการตอบรับที่ดีจากผู้ใช้บริการจากมาตรฐานที่สูงของบริษัท นอกจากนี้ลูกค้ารายเดิม ๆ ที่ใช้บริการอยู่อาจจะใช้บริการเพิ่มขึ้น ด้วยสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศที่ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้แนวโน้มโรงงานต่าง ๆ จะเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าเดิม และอาจจะมีการเพิ่มเวลาการผลิตมากขึ้น หากมีส่วนนี้เข้ามาจะช่วยเพิ่มยอดการเติบโตของรายได้จากเดิมราว 5%"นายปิยะ กล่าว

นายปิยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมองว่าปี 61 ทิศทางอัตรากำไรสุทธิจะเพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 10% จากปี 60 คาดว่าจะอยู่ใกล้เคียงปีก่อนหน้าที่ 7.25% และมีอัตรากำไรขั้นต้นไม่ต่ำกว่า 25% จากปี 60 ที่คาดว่าจะอยู่ราว 23-24% เนื่องจากในปีนี้บริษัทจะมีรถครบอายุเข้าปรับปรุงใหญ่เพียง 1-2 คันเท่านั้น จากปีก่อนมีทั้งหมดถึง 15 คัน ซึ่งส่วนนี้มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างมาก นอกจากนี้ บริษัทยังมีการบริหารจัดการต้นทุนด้านเชื้อเพลิงได้ดีขึ้นด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ