NDR ตั้งเป้ารายได้ปี 61 แตะ 1-1.1 พันลบ.หลังเข้าซื้อกิจการ FKRMM ที่มาเลเซีย, ทุ่มงบลงทุนอีก 180-200 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 10, 2018 10:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัยสิทธิ์ สัมฤทธิวณิชชา กรรมการผู้จัดการ บมจ.เอ็น.ดี. รับเบอร์ (NDR) เปิดเผยถึงแผนการดำเนินงานในปี 61 ว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโตมาอยู่ที่ระดับ 1-1.1 พันล้านบาท หลังเข้าซื้อกิจการของ Fung Keong Rubber Manufactory (Malaya) Sdn. Bhd. (FKRMM) ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งในวันที่ 18 ม.ค. 61 ซึ่งบริษัทจะเสนอที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการทำรายการดังกล่าว โดยคาดว่าจะทำรายการแล้วเสร็จภายใน 60 วัน และจะรับรู้รายได้เข้ามาทันทีในไตรมาส 1/61 ทันที

โดย FKRMM เป็นแบรนด์ที่รู้จักของผู้บริโภคมากว่า 50 ปี เป็นบริษัทผู้จัดจำหน่ายสินค้าที่มีตัวแทนจำหน่ายในประเทศมาเลเซียมากกว่า 79 ราย รวมถึงมีคลังสินค้าในการจัดเก็บและกระจายสินค้าที่เป็นของตัวเองถึง 4 แห่ง ในประเทศมาเลเซีย ซึ่งการเข้าซื้อ FKRMM จะเป็นการเสริมกันกับธุรกิจของบริษัทฯ เนื่องจากที่ผ่านมา NDR เป็นผู้ผลิตสินค้ายางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ให้แก่กลุ่มบริษัท FKRMM เพื่อนำไปจัดจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย โดยรายได้ประมาณ 40% ของรายได้รวม และรายได้ประมาณ 80% ของรายได้ที่ส่งออกเป็นรายได้ที่จัดจำหน่ายให้แก่กลุ่ม FKRMM

นอกจากนี้การเข้าซื้อ FKRMM ยังเป็นการสร้างโอกาสในการขยายฐานลูกค้าและเป็นการสร้างโอกาสในการจัดจำหน่ายสินค้าที่ผลิตจากยางนอกเหนือจากยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ และรองเท้าในประเทศมาเลเซียและประเทศใกล้เคียงให้แก่บริษัทในอนาคต และภายหลังการเข้าทำรายการเรียบร้อยแล้ว บริษัทจะแต่งตั้งตัวแทนเข้าไปเป็นกรรมการบริษัทของ FKRMM จำนวน 2 ท่าน และแต่งตั้งผู้บริหารเพื่อเข้าไปบริหารงานของ FKRMM จำนวน 1 ท่าน

สำหรับงบลงทุนในปี 61 ได้ตั้งไว้อยู่ที่ 180-200 ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนในการซื้อกิจการ FKRMM จำนวน 150 ล้านบาท โดยเม็ดเงินลงทุนจะมาจากใช้เงินจากธนาคารพาณิชย์ เงินจากการแปลงสภาพวอร์แรนต์ และเงินทุนหมุนเวียน และการลงทุนระบบออโตเมชั่น จำนวน 30-50 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดต้นทุนการผลิต โดยเม็ดเงินลงทุนมาจากเงินหมุนเวียนของกิจการ ทั้งนี้บริษัทมีการใช้กำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่ 70% ซึ่งยังเพียงพอต่อความต้องการ จึงไม่ต้องใช้งบลงทุนในส่วนนี้ โดยมีกำลังการผลิตยางนอกรถจักรยานยนต์อยู่ที่ 3.5 ล้านเส้น/ปี และยางในรถจักรยานยนต์ อยู่ที่ 7.2 ล้านเส้น/ปี

“แนวโน้มภาพรวมอุตสาหกรรมมองว่าตลาดในประเทศน่าจะมีการแข่งขันที่สูงขึ้น เนื่องจากมีผู้ผลิตรายใหม่เข้ามาเพิ่ม แต่ตลาดอินเดียคาดว่าน่าจะกลับมาดีกว่าปีก่อน หลังจากเริ่มมีออเดอร์เข้ามาในช่วงปลายไตรมาส 3 ปีก่อน ส่วนตลาดมาเลเซียคาดว่าจะเริ่มกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 2/61 หลังจากที่บริษัทฯเข้าไปบริหารงานแล้ว และคาดว่ายอดขายในปี 61 น่าจะดีกว่าปี 60 อย่างไรก็ตามยังต้องให้ความระมัดระวังเรื่องของต้นทุนการผลิตด้วย"นายชัยสิทธิ์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ