น.ส.ศลิษา หาญพาณิช ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสาย FIRSTและผู้บริหารสาย Segment Management ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายเบี้ยรับรวมของธุรกิจนายหน้าซื้อขายประกันผ่านช่องทางธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) ในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมในปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 10-20% โดยในปีนี้ธนาคารจะเน้นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบคู่การลงทุนมากขึ้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ประเภทยูนิตลิงค์ ซึ่งจะเข้าไปเจาะกลุ่มลูกค้าระดับบน หรือลูกค้ากลุ่ม Wealth มากขึ้น
โดยธนาคารได้ร่วมมือกับบมจ.พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) ช่วยสนับสนุนกลยุทธ์ของธนาคารในการสรรหาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนชั้นแนวหน้า ซึ่งสามารถเติมเต็มความต้องการด้านการเงิน และการลงทุนของกลุ่มลูกค้า Wealth ของธนาคารซึ่งเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วได้เป็นอย่างดี เพราะลูกค้ากลุ่มนี้มองหาผลิตภัณฑ์ด้านการลงทุนที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก และยังได้รับความคุ้มครองเพื่อความมั่นคงในเวลาเดียวกันอีกด้วย ธนาคารหวังว่า ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนของพรูเด็นเชียล ประเทศไทย ผนวกกับทีมงานขาย การฝึกอบรม และการบริการลูกค้าที่มีความแข็งแกร่งจะช่วยให้ธนาคารบรรลุภารกิจนี้ได้เป็นอย่างดี
ส่วนแนวโน้มการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันให้กับลูกค้าของธนาคารในปีนี้มองว่าจะเป็นประกันที่ควบคู่กับการลงทุน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ประกันประเภทใหม่ในประเทศไทยและธนาคารต้องการให้ลูกค้ารับรู้และเข้าใจผลิตภัณฑ์ประกันดังกล่าวมากขึ้น ซึ่งลูกค้าสามารถได้รับผลตอบแทนจากการประกันและการลงทุนควบคู่ไปพร้อมกัน อีกทั้งสัดส่วนการถือครองกรมธรรม์ของประชาชนไทยยังอยู่ในระดับต่ำที่ 4% ของจีดีพี และมีอัคราการเติบโตที่ไม่มาก เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซีย และสิงคโปร์ ที่มีสัดส่วนการถือครองกรมธรรม์ 10% ของจีดีพี และมีอัตราการเติบโตที่สูงกว่าประเทศไทย ทำให้ยังมีโอกาสอีกมากที่ธนาคารจะนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันในหลากหลายรูปแบบที่น่าสนใจให้กับลูกค้าตามความเหมาะสมของลูกค้าแต่ละราย
ขณะที่ผลิตภัณฑ์ประกันประเภทอื่นธนาคารยังคงร่วมกับพันธมิตรในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันต่าง ๆ ให้กับลูกค้า เช่น บมจ. ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต (SCBLIFE) ที่จะเน้นผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ และผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบคุ้มครอง และกลุ่มอาคเนย์ ที่นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันประเภทอื่น ๆ และพันธมิตรรายใหม่ คือ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จะเน้นไปที่ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมี่ควบคู่กับการลงทุน (ยูนิตลิงค์) ซึ่งจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. 61 เป็นต้นไป ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ลูกค้าของธนาคารไทยพาณิชย์สามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการด้านการประกันชีวิตควบการลงทุนชั้นนำระดับโลกของพรูเด็นเชียล ประเทศไทย โดยผ่านช่องทางที่ปรึกษาการเงินของธนาคาร
สำหรับประเภทผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนที่จะนำเสนอในระยะแรก มี 3 รายการได้แก่ เอสซีบี ไพรเวท ลิงค์ (ชำระเบี้ยประกันภัยครั้งเดียว รับความคุ้มครองตลอดชีพ เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุน), เอสซีบี เพรสทีจ ลิงค์ (ชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด มั่นใจเต็มที่กับทุกจังหวะชีวิตด้วยแผนการเงินที่ปรับแต่งได้ตามใจ) และเอสซีบี โพรเทคชั่น ลิงค์ (ชำระเบี้ยประกันภัยรายงวด ให้ความคุ้มครองชีวิต พร้อมโอกาสสร้างความมั่งคั่งในอนาคต) ซึ่งจะเน้นกลุ่มลูกค้ากลุ่ม Wealth ของธนาคารที่มีฐานลูกค้าอยู่ทั้งหมดกว่า 2 แสนราย ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก กลุ่มลูกค้า SCB PRIME ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ตั้งแต่ 2 ล้านบาทขึ้นไป กลุ่มลูกค้า SCB FIRST ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ตั้งแต่ 10-49 ล้านบาท และกลุ่มลูกค้า SCB PRIVATE BANKING ที่มีมูลค่าสินทรัพย์ตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป
นายอามัน โชวลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าวว่า บริษัทมีความภูมิใจที่ได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรธุรกิจกับธนาคารไทยพาณิชย์ ซึ่งเป็นธนาคารที่เปิดดำเนินการมาอย่างยาวนานที่สุด รวมถึงเป็นหนึ่งในธนาคารที่ประสบความสำเร็จสูงสุดในประเทศไทย ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์นั้นเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ด้านการจัดจำหน่ายผ่านหลากหลายช่องทางของบริษัท ซึ่งช่วยให้เข้าถึงและให้บริการแก่ลูกค้าชาวไทยได้เป็นอย่างดี การร่วมมือเป็นพันธมิตรกับธนาคารไทยพาณิชย์ในครั้งนี้ เป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทได้ใช้ความชำนาญด้านผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตควบการลงทุนในการส่งมอบนวัตกรรมด้านผลิตภัณฑ์และบริการที่สอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าด้านบริหารความมั่งคั่งของธนาคารอีกด้วย
บริษัทมองว่าประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอัตราการถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตที่ค่อนข้างต่ำ อีกทั้งมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรที่มีรายได้มากอย่างรวดเร็ว ซึ่งต่างก็มีความต้องการด้านการประกันชีวิตและการออมเป็นอย่างมาก การร่วมมือระหว่างกันในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเติมเต็มช่องว่างด้านการประกันชีวิตให้แก่ลูกค้าในประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีความสำคัญของพรูเด็นเชียลในภูมิภาคเอเชีย
ขณะที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบยูนิตลิงค์ของบริษัทคิดเป็นสัดส่วน 10% ของเบี้ยรับรวมทั้งหมดของบริษัท ซึ่งการมีพันธมิตรใหม่ คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จะช่วยขยายฐานลูกค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น พร้อมกับสร้างการเติบโตให้กับพอร์ตของบริษัท โดยบริษัทมีพันธมิตรในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันแบบยูนิตลิงค์ในปัจจุบันทั้งหมด 4 ราย ได้แก่ ธนาคารธนชาต ธนาคารทิสโก้ ธนาคารยูโอบี และธนาคารไทยพาณิชย์