BSM ปรับเพิ่มเป้ารายได้ปี 61 เป็น 800 ลบ.จากเดิมคาด 700 ลบ.ตามภาวะศก.ฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 11, 2018 09:04 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสัญชัย เนื่องสิทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บิวเดอสมาร์ท (BSM) เปิดเผยว่า ในปี 61 บริษัทฯ ปรับเพิ่มเป้ารายได้ขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 800 ล้านบาท จากเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะอยู่ที่ราว 700 ล้านบาท เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง การลงทุนของทั้งภาครัฐและเอกชน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ มียอดคำสั่งซื้อที่ดีขึ้น และทำให้เรามีมุมมองที่ดีขึ้นต่อภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ

อีกทั้ง บริษัทฯอยู่ระหว่างพิจารณาเปิดโครงการอสังหาริมทรัพย์เพิ่มอีก 1 โครงการ ในพื้นที่ใกล้เคียงกับรถไฟฟ้าไม่เกิน 1 กิโลเมตร มูลค่า 300-400 ล้านบาท ไม่เกิน 8 ชั้น โดยเบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเปิดโครงการได้ช่วงกลางปี

ทั้งนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯมีมติอนุมัติให้เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อบุคคลในวงจำกัด หรือ Private Placement: PP จำนวน 200,000,000 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.65 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 130,000,000 บาท กำหนดวันเสนอขายหุ้น PP ภายในเดือน ม.ค. 61 เพื่อเข้าลงทุนในโครงการ The Teak Sukhumvit 39 จากบริษัท แอล เค เอช ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ประเภทคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น จำนวน 70 ยูนิต สำหรับเป็นที่พักอาศัยในย่านใจกลางสุขุมวิท ในราคา 145.00 ล้านบาท ซึ่งรวมค่าที่ดิน และค่าใช้จ่ายเตรียมการเบื้องต้น อาทิ ค่าใช้จ่ายในการขอใบอนุญาตก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายในการควบคุมงานก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายทางการตลาด เป็นต้น ปัจจุบันโครงการดังกล่าวมียอดการจองซื้อจำนวน 68 ยูนิต จากทั้งหมด 70 ยูนิต หรือคิดเป็น 97.14% ของจำนวนห้องชุดทั้งหมด โดยคณะกรรมการได้อนุมัติจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่คือ บริษัท ทีค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด เพื่อพัฒนาโครงการดังกล่าว โดยบิวเดอสมาร์ทถือหุ้น 99.99% ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ทั้งนี้การลงทุนในโครงการดังกล่าวจะเป็นการขยายธุรกิจ รวมถึงเพิ่มช่องทางการรับรู้รายได้ และกำไร พร้อมกันนี้จากการที่บริษัทฯได้หันมาพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง และได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ต้องการที่อยู่อาศัย บริษัทฯคาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 50% จากปีนี้ที่คาดว่าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ที่ราว 15-20% “แม้ว่าปัจจุบันโครงการอสังหาริมทรัพย์จะเปิดตัวมาก แต่เราเป็นผู้ประกอบการที่ไม่ได้ใหญ่มาก และสามารถปรับตัวได้ไวในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งเรายังคงเน้นการเปิดโครงการที่อยู่ในเส้นรถไฟฟ้าสายหลักที่ยังมีความต้องการอยู่มาก และรายใหญ่ๆไม่ได้ลงมาแข่งขันด้วย เราจึงมั่นใจว่าโครงการของเราจะได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ที่ต้องการอยู่อาศัยจริง"นายสัญชัย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ