(เพิ่มเติม) SCBS ประเมิน SET Index ปลายปีแตะ 1,900 จุดรับแรงดันจากปัจจัยบวกในประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 11, 2018 11:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) ปลายปี 61 มีโอกาสแตะ 1,900 จุด โดยได้รับปัจจัยบวกหลัก จากนโยบายการคลังเพื่อกระตุ้นการบริโภคและลงทุน วัฎจักรการลงทุนรอบใหม่ที่กำลังเริ่มต้น รวมถึงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานและโครงการที่เกี่ยวเนื่องจากโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และ ภาวะเงินฝืดที่กำลังหมดไป พร้อมแนะนำหุ้นที่ได้รับอานิสงส์ คือ กลุ่มแบงก์ ขนส่ง และอสังหาริมทรัพย์

นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย SCBS กล่าวว่า ในไตรมาส 1/61 น่าจะได้เห็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยนโยบายการคลังอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นอุปสงค์ภาคเอกชนในประเทศให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น ได้แก่ โครงการรับจำนำยุ้งฉาง และการแจกสวัสดิการรอบที่ 2 สำหรับผู้ถือบัตรคนจน ประกอบกับ การประกาศใช้ พ.ร.บ. พื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุนใหม่ของภาคเอกชนทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ

ในด้านปัจจัยต่างประเทศ กฎหมายปฏิรูปภาษีในสหรัฐฯ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจที่ดีและการกู้ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจะทำให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวขึ้นด้วย

นอกจากนี้ สินทรัพย์เสี่ยงมีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตราสารหนี้ หลังภาวะเงินเฟ้อทั่วโลก และนัยสำคัญต่อผลตอบแทนพันธบัตรโดยรวม เมื่ออิงกับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกล่าสุดโดย IMF พบว่าการขยายตัวทางเศรษฐกิจทั่วโลกมีแนวโน้มที่เร่งตัวขึ้น สอดคล้องกับการค่อยๆ ปรับขึ้นของอัตราเงินเฟ้อและดอกเบี้ยระยะยาวในหลายๆ ตลาดสำคัญ ยกเว้นญี่ปุ่นซึ่งยังใช้นโยบายควบคุมผลตอบแทนพันธบัตร

ดังนั้น จึงแนะนำให้นักลงทุนจับตาดูความเป็นไปได้ที่จะเห็นอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นอีกครั้งในปี 61 โดยปัจจัยระยะสั้นที่มากระตุ้น คือ การผ่านแผนปฏิรูปภาษีในสหรัฐฯ แผนดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจของสหรัฐฯ เติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกประมาณ 0.5-0.8% ต่อปี ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้อัตราเงินเฟ้อรวมถึงคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อปรับตัวเพิ่มขึ้น

“SCBS มองว่า จากปัจจัยสนับสนุนเกือบทุกด้านเปรียบได้กับเครื่องยนต์ที่ส่งกำลังขับเคลื่อนแบบ “เต็มสูบ" การใช้นโยบายการคลังกระตุ้นทั้งการบริโภคและการลงทุนในปีนี้ส่งผลดีต่อตลาดหุ้น เพราะนอกจากจะมีกฎหมายใหม่ พ.ร.บ. EEC ดึงดูดการลงทุนภาคเอกชนแล้ว ยังจะมีแรงส่งจากเศรษฐกิจโลกและไทยที่แข็งแกร่ง การใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้น ทำให้ภาวะเงินฝืดหมดไปราคาสินค้าและบริการที่ปรับตัวขึ้น จะส่งผลดีต่อการลงทุน เมื่อรวมกับผลตอบแทนพันธบัตรที่เพิ่มขึ้นและสภาพคล่องที่ยังล้นเหลือ จะสนับสนุนให้ตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น"

สำหรับหุ้น Top Picks ประจำไตรมาส 1/61 ที่จะได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่กำลังจะประกาศใช้และวัฏจักรการลงทุนรอบใหม่ของประเทศไทย ประกอบด้วยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มขนส่งที่ค่อยๆ ฟื้นตัวและสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้นและกลุ่มอสังหาริมทรัพย์

แนะนำหุ้น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากวัฏจักรการลงทุนรอบใหม่และการส่งออกที่ขยายตัวดีอย่างต่อเนื่อง อัตราการเติบโตของสินเชื่อน่าจะเร่งขึ้นอีกเท่าตัว ส่วน credit cost น่าจะลดลงในปีหน้า ,บมจ. กรุงเทพประกันชีวิต (BLA) ราคาหุ้นต่ำกว่ามูลค่าอย่างมาก, ซื้อขายที่มูลค่า EV (ต่ำเกินไปเหมือนกับจะเลิกกิจการ) ผลตอบแทนพันธบัตรที่จะปรับตัวขึ้นจะช่วยสนับสนุนให้ราคาหุ้น BLA ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ,

บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) : ราคาหุ้นไม่ได้สะท้อนการเติบโตของระยะทางเดินรถและ EBITDA ที่จะเพิ่มขึ้น 4 เท่าภายในปี 65 , ธนาคารกรุงไทย (KTB) : เป็นหุ้น laggard ในกลุ่มธนาคาร มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการลงทุนภาครัฐ , บมจ. แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ (LPN) : กำไรจะทำจุดต่ำสุดในปี 2560 และฟื้นตัวด้วยอัตราเติบโต 43% ในปี 2561 และ 18% ในปี 2562 เนื่องจากบริษัทหันมารุกตลาดระดับกลางมากขึ้น, บมจ. ควอลิตี้เฮ้าส์ (QH) : กำไรจะเติบโตที่ CAGR 11% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า และหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าเงินลงทุนถึง 19%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ