นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) แถลงทิศทางธุรกิจปี 61 และอนาคต โดยคาดการณ์ปีนี้ทั้งกลุ่มจะมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทและกิจการร่วมค้าเติบโตเพิ่มขึ้น 25% พร้อมตั้งงงบลงทุน 6.6 พันล้านบาท จากแผนการลงทุน 5 ปี รวม 43,000 ล้านบาท (ระหว่างปี 59-63) ด้วยปัจจัยเอื้อจากสภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว บวกกับความน่าสนใจลงทุนของประเทศที่ดีขึ้นจากโครงการสนับสนุนของภาครัฐ อาทิ โครงการระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)
ด้วยสภาพเศรษฐกิจในประเทศ ตลอดจนระดับภูมิภาคและทั่วโลกที่ปรับตัวดีขึ้น WHA เตรียมย้ำตำแหน่งผู้นำด้านการให้บริการโซลูชั่นครบวงจรด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมของประเทศ ใน 4 กลุ่มธุรกิจของบริษัท ได้แก่ โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล พร้อมเล็งหาโอกาสการลงทุนใหม่ๆ เน้นอุตสาหกรรมบริการมูลค่าสูง และเตรียมรุกขยายธุรกิจในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง
ในปีนี้ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมของ WHA มีแผนที่จะให้บริการนิคมอุตสาหกรรมรวม 10 แห่งในประเทศไทย และอีก 1 แห่งในเวียดนาม พื้นที่รวม 39,300 ไร่ โดยตั้งเป้าขายที่ดิน 1,400 ไร่ จากจำนวน 1,000 ไร่ในปี 60 โดยมีที่ดินรอขายอีกกว่า 10,000 ไร่ พร้อมกับจะเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (HESIE 3) ซึ่งเป็นนิคมอุตสาหกรรมแห่งที่ 10 ในจังหวัดชลบุรี พื้นที่รวม 2,200 ไร่ ในไตรมาส 4/61 ส่วนในเวียดนาม จะพัฒนาเขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมในจังหวัดเหงะอาน อย่างต่อเนื่อง โดยเฟสที่ 1 จะมีพื้นที่ราว 3,110 ไร่ จากพื้นที่รวม 20,000 ไร่ของทั้งโครงการ
นอกจากนี้ บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ยังมีแผนที่จะเจาะตลาด CLMV และเพิ่มบริการใหม่ๆ เช่น การนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ การกรองแร่ธาตุออกจากน้ำ และการกรองน้ำเค็ม โดยประมาณการณ์กำลังการผลิตน้ำสำหรับปี 61 อยู่ที่ 113 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 13% จากปี 60 อันเนื่องมาจากความต้องการใช้งานที่สูงขึ้นของลูกค้าปัจจุบันและลูกค้ารายใหม่ รวมถึงอัตราการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้นจากโรงไฟฟ้าที่เพิ่งเดินเครื่องผลิต
ด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ปัจจุบัน WHAUP ลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าจำนวน 15 โครงการ ในประเทศไทย 14 โครงการ และอีกหนึ่งโครงการในประเทศลาว โดยจะมีกำลังการผลิตรวมทั้งหมด 2,540 เมกะวัตต์ในปี 62 โดย WHAUP มีสัดส่วนการถือครองกำลังการผลิตไฟฟ้าจำนวน 543 เมกะวัตต์ ปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าอยู่ในระหว่างการดำเนินการ 11 โครงการด้วยกำลังการผลิต 478 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตตามสัญญา 2,287.4 เมกะวัตต์
และมีโรงไฟฟ้าอยู่ในระหว่างพัฒนา 4 โครงการ ด้วยกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้น 65 เมกะวัตต์ จากกำลังการผลิตตามสัญญา 253 เมกะวัตต์ คาดว่าจะเปิดดำเนินการในปี 61 และ 62 เป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก 2 แห่งภายใต้ความร่วมมือกับกัลฟ์ เอ็มพี โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ VSPP อีก 1 แห่ง และโรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะ VSPP อีก 1 แห่ง ซึ่งร่วมมือกับโกลว์และสุเอซ ผ่านธุรกิจร่วมทุน บริษัท ชลบุรี คลีนเอ็นเนอร์ยี จำกัด (CCE)