นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.อาร์เอส (RS) เปิดเผยว่า จากความสำเร็จของ Lifestar ธุรกิจเฮลท์แอนบิวตี้ของบริษัทที่สามารถครองแชมป์บริษัทใหม่ทำยอดขายแบบก้าวกระโดดรวดเร็วถายในเวลา 3 ปี ดังนั้น ในปีนี้ RS ลุยเปิดตัวธุรกิจใหม่ Lifestar BIZ เพื่อรองรับการขยายฐานเติบโตของ Lifestar ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกับแนวโน้มภาพรวมธุรกิจสุขภาพและความงามที่สดใสเดินหน้าขยายตัวต่อเนื่อง เพราะปัจจุบันทุกเพศทุกวัยหันมาดูแลและใส่สุขภาพความงามของตัวเองมากขึ้นทวีคูณ และยังมีสัญญาณบวกจากเศรษฐกิจไทยที่เริ่มฟื้นตัวผลักดันกำลังซื้อขยายตัวเพิ่มขึ้นไปด้วย
สำหรับรูปแบบธุรกิจใหม่ Lifestar BIZ เป็นการเปิดรับนักธุรกิจ Lifestar BIZ เพื่อให้โอกาสนักขายทั่วประเทศมาเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า Lifestar ภายใต้คอนเซ็ปต์ “รายได้ง่ายๆ เพียงปลายนิ้วสัมผัสได้" พร้อมทั้งมอบสิทธิพิเศษมากมาย ได้แก่ ซื้อสินค้าราคาพิเศษก่อนใคร ยิ่งซื้อมากยิ่งลดมาก สามารถทำกำไรสูงสุด 70% จากราคาปกติ รวมไปถึงรับทองทันทีเมื่อสะสมยอดซื้อครบตามกำหนด และลุ้นท่องเที่ยวฟรีทั่วโลก
บริษัทจะเริ่มเปิดรับนักธุรกิจ Lifestar BIZ แล้วตั้งแต่วันนี้ สามารถสมัครได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ Call Center โทร.1214,เว็บไซต์ https://biz.lifestar.co.th และ แอพพลิเคชั่น Lifestar BIZ รองรับได้ทั้งระบบ Android และ ระบบ iOS เพิ่มความง่ายและสะดวกรวดเร็วให้สามารถเลือกซื้อสินค้าตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องด้วยภายในแอพพลิเคชั่น ประกอบด้วย อี-แคตตาล็อค (E-Catalog) อัพเดทสุดยอดสินค้าและโปรโมชั่นใหม่ๆ ครบถ้วน รวมทั้งมีแบบฟอร์มให้สั่งซื้อสินค้าจบเบ็ดเสร็จภายในแอพพลิเคชั่นเดียว (One Stop Service) พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษ!! ในช่วงแรกค่าสมัครเป็นนักธุรกิจ Lifestar BIZ เพียง 900 บาท รับฟรีทันที!! ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม ซีแมคซ์ กาแฟสำเร็จรูปมีส่วนผสมถั่งเช่าสกัด จำนวน 2 กล่อง มูลค่า 1,198 บาท เริ่มเปิดรับสมัครแล้วตั้งแต่วันนี้
ทั้งนี้ RS มีความพร้อมในการสนับสนุนส่งเสริมการขายให้กับนักธุรกิจ Lifestar BIZ เพื่อสร้างยอดขายให้บรรลุเป้าที่วางไว้ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านโปรดักส์ตอบโจทย์เทรนด์สุขภาพและความงาม ผลิตโดยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ได้มาตรฐานระดับนานาชาติ เพราะร่วมมือกับสถาบันวิจัยระดับโลก, ทางด้านโฆษณาเนื่องจากเราเป็นเจ้าของสื่ออย่างช่อง 8 ดิจิตอลทีวีอันดับต้นเมืองไทย และทีวีดาวเทียมอีก 4 ช่อง รวมทั้งคลื่นวิทยุอันดับ 1 ของประเทศ ทำให้สามารถประชาสัมพันธ์สินค้าให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงทุกกลุ่มเป้าหมายทั่วประเทศ อีกทั้งยังมี Call Center โทร.1214 ให้คำปรึกษาแนะนำธุรกิจตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดจนเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่เชื่อมโยงลูกค้าให้ซื้อง่าย ขายคล่อง กำไรดี
ขณะเดียวกันได้เปิดตัว New Products ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารทั้งกลุ่มเอส.โอ.เอ็ม ประกอบด้วย ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. มี-มอร์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. โกลดีวาส ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสลิคซ์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม ซี แมคซ์ และผลิตภัณฑ์ภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม หลินจือซัน และเตรียมความพร้อมเพิ่มสินค้าดีมีคุณภาพมาเสริมศักยภาพใหม่ๆ ตลอดทั้งปี ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าธุรกิจใหม่จะประสบความสำเร็จแน่นอน ตั้งเป้าปีแรกมีผู้สมัครมากกว่า 10,000 ราย ส่งผลรายได้กลุ่มเฮลท์แอนบิวตี้ปีนี้แตะ 2,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโต 80% เมื่อเทียบกับปีก่อน ดันรายได้รวมทั้งกลุ่มอาร์เอสทะลุเป้า 5,300 ล้านบาท
นอกจากนี้ อาร์เอสยังมีแต้มต่อจากกลุ่มธุรกิจ Lifestar ซึ่งปัจจุบันมีฐานลูกค้าแล้ว 7 แสนราย คาดว่าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 1.5 ล้านราย แบ่งเป็น ต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ 80% และกรุงเทพฯ 20% ซึ่งได้นำฐานลูกค้าที่มีอยู่ในมือให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เช่น นำเสนอสินค้าและโปรโมชั่นตอบโจทย์ตามไลฟ์สไตล์ลูกค้าแต่ละราย ปรากฏว่าผลตอบรับดีตามคาด พร้อมทั้งเตรียมแผนเชิงรุกพัฒนาช่องทางชำระเงินผ่าน LINEPAY สำหรับลูกค้า @shop1781 บน LINESHOP ขณะที่ยังเดินหน้าพัฒนาช่องทางการขายอื่นๆ อย่างเข้มข้น ไม่ว่าจะเป็น www.shop1781.comและ Call Center โทร.1781 ซึ่งเป็นจุดแข็งยืนเหนือคู่แข่งในตลาด รวมไปถึงเตรียมกระจายสินค้าเพิ่มขึ้นไปยังโมเดิร์นเทรด บิวตี้สโตร์ และร้านผลิตภัณฑ์ความงามครบวงจร เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคครอบคลุมทั่วประเทศมากที่สุด
อีกทั้งเตรียมเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ใหม่อีกประมาณ 30 รายการ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิว (Skincare) กลุ่มผลิตภัณฑ์เส้นผมหลุดร่วง (Hair Loss) และกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารเสริม (Food Supplement) จากปัจจุบันมีสินค้ากว่า 40 รายการ โดยไตรมาสแรกเตรียมออกสินค้าใหม่ 3 รายการ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. หลินจือซัน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. มี-มอร์ และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอส.โอ.เอ็ม. โกลดีวาส รวมไปถึงเตรียมเสริมทัพผลิตภัณฑ์ใหม่จากพันธมิตรอีกหลายราย อีกทั้งจะใช้สื่อกลางแจ้งทุกรูปแบบและโซเชียลมีเดียสร้างแบรนด์กระหึ่มทั่วประเทศ ขณะเดียวกันเล็งขยายตลาดต่างประเทศไปยังกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี เพื่อเป็นแรงส่งสำคัญดันยอดขายเพิ่มขึ้นทุกเดือนอย่างมีนัยสำคัญ