นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า บริษัทปรับคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารในงวดปี 60/61 (ต.ค.60-ก.ย.61) เป็นเติบโตกว่า 10% จากเดิมคาดเติบโต 5% ทำให้คาดว่ารายได้งวดปี 60/61 จะเติบโตทิศทางเดียวกับอัตราการเติบโตจำนวนผู้โดยสาร ขณะเดียวกันก็คาดว่าจะรักษามาร์จิ้นให้อยู่ในระดับใกล้เคียงงวดปีก่อน ที่ระดับ 58%
เนื่องจากในช่วงไตรมาส 1 ปี 60/61 (ต.ค.-ธ.ค.60) มีจำนวนผู้โดยสารเติบโต 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และคาดว่าในไตรมาส 2 จะมีจำนวนผู้โดยสารเติบโตใกล้เคียงในไตรมาสแรก โดยคาดว่าเดือน ก.พ.-มี.ค.จะได้รับผลดีจากช่วงเทศกาลตรุษจีนที่จะหนุนให้มีผู้โดยสารเติบโตต่อเนื่องจากเทศกาลปีใหม่ที่จำนวนผู้โดยสารเกือบทุกท่าอากาศยานทำสถิติใหม่
ทั้งนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในช่วงปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญเมื่อปลายปี 59 ได้ยกเลิกตารางการบินจากจีนออกไปมาก และทางรัสเซียและอินเดียก็ได้เข้ามาบินแทน และเมื่อจีนกลับมาบินจึงเข้ามาทำการบินช่วง off peak ช่วงเวลา 02.00-6.00 น. ทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นและมีสัดส่วนผู้โดยสารต่างประเทศเพิ่มขึ้นมา 55% ทำให้มีรายได้จากค่าธรรมเนียมสนามบิน (PSC) เพิ่มขึ้นเพราะเก็บค่า PSC จากผู้โดยสารเส้นทางต่างประเทศ 700 บาท/เที่ยว ขณะที่สนามบินดอนเมืองได้มีเที่ยวบินมากขึ้นหลังองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ปลดธงแดงให้ไทย
นายนิตินัย กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนปรับขึ้นค่า PSC แม้ว่าโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 ด้วยงบลงทุน 5.3 หมื่นล้านบาทจะทำให้มีต้นทุนเพิ่มขึ้นก็ตาม แต่เนื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสาร 60 ล้านคน เกินขีดความสามารถที่รองรับได้ 45 ล้านคน/ปี ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดในมือสูงราว 7 หมื่นล้านบาท และยังมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) อีกปีละ 3 หมื่นล้านบาท ในช่วงปี 61-63 รวมประมาณ 9 หมื่นล้านบาท
ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมเปิดขายซองประกวดราคาประมูลพื้นที่ร้านปลอดภาษีและพื้นที่เชิงพาณิชย์ ในเดือนมี.ค. นี้ และคาดจะประกาศผลในไตรมาส 2/61