IRPC คาดผลประกอบการปี 60 ดีกว่าปี 59 ,โครงการ EVEREST สร้าง EBIT ได้ตามเป้า 7 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 17, 2018 20:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ไออาร์พีซี (IRPC) คาดว่ากำไรสุทธิปี 60 จะดีกว่าปี 59 และดีกว่าเป้าหมายที่วางไว้ โดยโครงการ EVEREST เพื่อเพิ่มขีดความสามารถขององค์กรในทุกด้านนั้นสามารถสร้างกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี (EBIT) ในปีนี้ได้ตามเป้าที่ 7 พันล้านบาท และในปีหน้าคาดว่าจะสร้าง EBIT ได้ 1 หมื่นล้านบาทตามเป้าหมาย รวมถึงทุกโครงการที่ลงทุนในปีนี้แล้วเสร็จทั้งหมด ทั้งโครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ (UHV) ของโรงกลั่นและการขยายกำลังการผลิตโพลีโพรพิลีน (PP) อีก 3 แสนตัน/ปี และโรงไฟฟ้าไออาร์พีซี คลีน เพาเวอร์ ขนาด 240 เมกะวัตต์ แล้วเสร็จ ประกอบกับในปีหน้าจะไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงงาน ก็เชื่อว่าจะผลักดันให้กำไรสุทธิในปี 61 ดีกว่าปีก่อน

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของโครงการ EVEREST คงจะไม่สามารถผลักดันให้กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย,ภาษี,ค่าเสื่อม และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ได้ตามเป้าหมาย 2.9 หมื่นล้านบาทในปี 63 ทำให้บริษัทต้องหาโครงการใหม่ IRPC 4.0 ซึ่งเป็นการลงทุนด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยต่อยอดให้ทำ EBITDA ได้ตามเป้าในปี 63 โดยบริษัทยังต่อยอดด้วยภายใต้โครงการ GDP ซึ่งแบ่งเป็น 1. Power of Growth ซึ่งจะดำเนินการภายใต้โครงการ MARS โดยเป็นการผลิตผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ รวม 1.3 ล้านตัน/ปี ได้แก่ สารพาราไซลีน 1 ล้านตัน/ปี และเบนซีน 3 แสนตัน/ปี มูลค่าลงทุน 1.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัจจุบันได้รับการอนุมัติเรื่องการออกแบบด้านวิศวกรรมโครงการ (Front End Engineering Design Process) แล้ว ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นจะออกเอกสารเชิญชวนประมูล ใช้เวลา 6 เดือน ก่อนจะตัดสินใจว่าจะดำเนินโครงการในขั้นสุดท้ายในช่วงกลางปี 62 และใช้เวลาก่อสร้าง 3 ปีครึ่ง แล้วเสร็จทั้งโครงการใช้เวลา 5 ปี ซึ่งจะสร้างอัตราผลตอบแทนสำหรับธุรกิจปิโตรเคมีเป็น 25% จาก 15% ในปัจจุบัน

2.Power of Digital ซึ่งเป็นการลงทุนในโครงการ IRPC 4.0 และ 3. Power of People ซึ่งเป็นการสร้างบุคลากรเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต

นายสุกฤตย์ กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุน 5 ปี (ปี 61-65) ที่ระดับกว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยยังไม่นับรวมโครงการ MARS และงบการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ซึ่งปัจจุบันบริษัทเริ่มมีผลประกอบการที่ดีขึ้น ทำให้คาดว่าจะมีกระแสเงินสดในช่วง 5 ปีนี้ที่ราว 3 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งมีศักยภาพที่จะมองการลงทุนใหม่ๆ ด้วยการทำ M&A เป็นครั้งแรก และล่าสุดได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาระดับโลกเข้ามาดูโครงการต่าง ๆ โดยคาดว่าน่าจะเห็นเป้าหมายใน 1 เดือนนี้

โดยยังประเมินทิศทางราคาน้ำมันในปีนี้ที่ระดับ 55-60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล แม้ว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวสูงขึ้นในช่วงนี้ แต่มองว่าเป็นเพียงชั่วคราวจากภาวะผิดปกติทั้งสภาพอากาศ และปัญหาในตะวันออกกลาง ขณะที่การผลิต shale gas ยังคงเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม หากรวมงบโครงการ MARS ก็คาดว่าจะใช้เงินลงทุน 5 ปี กว่า 5 หมื่นล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ