ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,833.18 จุด เพิ่มขึ้น 4.30 จุด (+0.24%) มูลค่าการซื้อขาย 41,989.80 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดช่วงเช้า โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,837.92 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,829.85 จุด
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้บวกได้ตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก โดยตลาดกำลังเฝ้ารอดูตัวเลขเศรษฐกิจของจีนในช่วงบ่ายนี้ ที่จะประกาศตัวเลข GDP งวดไตรมาส 4/60 ซึ่งตลาดคาดจะอยู่ที่ 6.7% ซึ่งเป็นระดับที่มีเสถียรภาพของจีน
นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ยังยืนในระดับสูง โดยราคาน้ำมัน Brent อยู่แถว 69-70 เหรียญฯ/บาร์เรล ทำให้หุ้นในกลุ่มพลังงานช่วยประคองตลาดฯ
อย่างไรก็ดี ตลาดฯก็มีปัจจัยลบจากเรื่องที่แบงก์ชาติเริ่มเข้ามาตรวจสอบสถาบันการเงินที่เอื้อการเก็งกำไรค่าเงิน ทำให้แรงเก็งกำไรเงินบาทลดลง และเงินบาทอาจพักฐานได้ อีกทั้งยังมีเรื่องที่โบรกเกอร์ต่างชาติแห่งหนึ่งได้ปรับลดน้ำหนักหุ้นไทยลง หลังจากที่เห็นว่า Valuation สูงแล้ว ซึ่งตรงนี้อาจนำมาซึ่งแรงขายของต่างชาติในระยะสั้นได้
ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนจากพันธบัตรสหรัฐฯ (Bond Yield) อายุ 10 ปี ได้ขึ้นมาจ่อระดับ High เดิมที่ 2.6% อีกแล้ว ซึ่งหากทะลุไปจะทำให้ Bond Yield ก้าวกระโดดได้ และจะเป็นผลลบต่อ Fund Flow ทำให้พันธบัตรของสหรัฐฯน่าสนใจกว่าตลาดหุ้นเกิดใหม่
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯอาจบวกได้ไม่มาก และอาจโดนขายทำกำไรจากเงินบาทพักฐาน และการ Downgrade ของต่างชาติ พร้อมให้แนวรับ 1,820 จุด ส่วนแนวต้าน 1,840 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,844.88 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,353.33 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,065.24 ล้านบาท ปิดที่ 22.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.60 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 1,757.12 ล้านบาท ปิดที่ 20.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,629.46 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท ลดลง 4.00 บาท