นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายในปี 61 เติบโตอย่างน้อย 10% จากปีก่อน ตามการขยายพื้นที่จำหน่ายเพิ่มเติมประมาณ 3 พันตารางเมตร หรือ 30 จุดขาย และเพิ่มจุดจำหน่ายผลิตภัณฑ์บำรุงผิว รวมถึงเพิ่มประเภทสินค้า Aromatique Active และ M&C ให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้าเพิ่มขึ้น เช่น Diffuser และเครื่องหอมต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ Active Wear นอกเหนือจากการพัฒนาสินค้าหลักประเภทยีนส์อย่างต่อเนื่อง ด้วยกลยุทธ์การขายผ่าน Omni Channel (ออฟไลน์และออนไลน์) เพื่อผลักดันการเติบโตของจุดขายเดิมและจุดขายใหม่อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทคาดว่าในปี 61 อัตราการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sales Growth) จะอยู่ที่ราว 5% จากปีก่อน โดยได้เริ่มใช้ระบบ CRM (Customer Relationship Management) ในเดือน ธ.ค.60 ที่ผ่านมา ในการสมัครสมาชิกภายใต้โปรแกรม “MC Club" เพื่อรับสิทธิพิเศษตลอดปี ซึ่งได้ผลตอบรับจำนวน 20 คนต่อสาขาต่อวัน โดยคาดว่าจะมีสมาชิกไม่น้อยกว่า 500,000 คนภายในปี 61 จากฐานลูกค้าจำนวนหลายล้านคน
บริษัทจะพยายามรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับที่ 53% ตามนโยบาย ซึ่งคาดว่าสามารถทำได้จากกำลังซื้อในประเทศและต่างประเทศปรับตัวดีขึ้น ตามทิศทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวดีขึ้นต่อเนื่อง
ส่วนงบลงทุนในปี 61 บริษัทคาดว่าจะใช้ไม่เกิน 10 ล้านบาท เพื่อขยายจุดจำหน่ายและปรับปรุงพื้นที่บางแห่ง ส่วนงบการตลาดวางไว้ราว 3% ของยอดขายและเน้นการทำการตลาดออนไลน์ ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนน้อยกว่าปีก่อนที่อยู่ราว 3-5% ของยอดขาย ที่ส่วนใหญ่ใช้ไปกับการให้ส่วนลด ณ จุดขาย
ด้านนางสาวจริณธร วิมลเกียรติศักดิ์ ผู้บริหารแผนกธุรกิจต่างประเทศ ของ MC เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าตัวเลขการใช้จ่ายของสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายในเมียนมาปี 61 อยู่ที่ประมาณ 3,300 บาทต่อคนต่อปี เติบโตราว 10% จากระดับ 3,000 บาทต่อคนต่อปีในปี 60 ที่การใช้จ่ายสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายในเมียนมาในปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 8% ของค่าใช้จ่ายต่อหัว จากการขยายตัวของศูนย์การค้าใหม่ ๆ พร้อมการเข้ามาของแบรนด์ต่างประเทศและการขยายตัวของกลุ่มชนชั้นกลาง การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ รวมถึงการเข้าถึงสื่อแฟชั่นต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งมีผลต่อวัฒนธรรมการแต่งการของกลุ่มคนสมัยใหม่มากขึ้น
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้จากเมียนมาในปีนี้ที่ 15 ล้านบาท จากการปรับกลยุทธ์เพื่อเร่งสร้างแบรนด์ รวมถึงการเลือกสินค้าที่เหมาะสมกับผู้บริโภคในประเทศ โดยการจัดรายการส่งเสริมการขาย และเพิ่มช่องทางการสื่อสารให้ตรงกับกลุ่มลูกค้า เช่น ช่องทางการขายออนไลน์ เพื่อให้ครอบคลุมในประเทศ จากปัจจุบันมีจุดจำหน่ายสินค้าทั้งหมด 8 จุดในเมียนมา
นอกจากนี้บริษัทได้ขยายธุรกิจเข้าสู่ประเทศในตะวันออกกลาง โดยได้ทำการเปิดร้านแม็คยีนส์ในประเทศอิหร่านแล้วรวม 2 สาขาที่ Kish Island และกำลังดำเนินการเปิดจุดขายใหม่เพิ่มอีก 2 สาขา ที่กรุงเตหะรานในปี 61 โดยบริษัทมีความเชื่อมั่นในศักยภาพและโอกาสในการเติบโตทางธุรกิจ จากจำนวนประชากรและรายได้ต่อหัวเฉลี่ยที่อยู่ในระดับสูง
อีกทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างทำการศึกษาตลาดในมาเลเซีย โดยบริษัทกำลังหา Partnership เพื่อเป็นตัวแทนจำหน่ายและหาตลาดโดยคาดว่าจะสามารถมีความคืบหน้าในปี 61