นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานปฏิบัติการ บมจ. เซ็นทรัลพัฒนา กล่าวว่า บริษัทฯ ร่วมกับพันธมิตร 6 ธนาคารชั้นนำของไทย ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ (BBL), ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY), ธนาคารออมสิน, ธนาคารกสิกรไทย (KBANK), ธนาคารกรุงไทย (KTB), และธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ด้วย QR Code Payment ที่ร้านค้าในศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั่วประเทศ ด้วยแนวคิด “The New Chapter of Cashless Life" มิติใหม่แห่งชีวิตไร้เงินสด เพื่อร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมค้าปลีกไทยสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 และตอบรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ Digital Mobility ที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิตอล
ทั้งนี้ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2561 นี้ ซีพีเอ็นและพันธมิตรธนาคารจะเดินหน้าติดตั้งการใช้ QR Code Payment ตั้งเป้าไว้กว่า 4,000 ร้านค้า ที่ศูนย์การค้าของซีพีเอ็นทั่วประเทศ โดยในเฟสแรกจะเจาะกลุ่มร้านค้าและผู้ประกอบการรายย่อย อาทิ แบรนด์แฟชั่น 822 แบรนด์, สินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ 805 แบรนด์, ร้านค้าแบบ Kiosk และผู้เช่ารายย่อยให้บริการเบ็ดเตล็ดรวมกว่า 1,500 ร้าน รวมไปถึงร้านอาหารภายใน ‘Food Park’ ที่ศูนย์ฯ 30 สาขารวมกว่า 800 ร้าน ร่วมด้วยแบรนด์ชั้นนำอีกมากมาย ได้แก่ Giordano, Guy Laroche, Swatch, Havaianas, Kyo Roll En, Simply W, Mezzo Coffee, Sfree, DOITUNG, Poli-Chem Car Wash, The Rink Ice Area และ Pororo Aquapark Bangkok เป็นต้น
สำหรับเฟสต่อเนื่องจากนี้ตลอดทั้งปี จะขยายการใช้ QR Code Payment ขยายสู่คู่ค้าและ Anchor รายใหญ่ของซีพีเอ็น รวมไปถึงการทำแคมเปญโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆ ผมเชื่อว่าการนำวิธีการชำระเงินในรูปแบบ QR code มาปรับใช้กับร้านค้าภายในศูนย์ฯ ของซีพีเอ็นจะก่อให้เกิดประโยชน์กับทุกฝ่าย ในแบบ 5 Wins คือ 1) ผู้บริโภค ได้รับความสะดวกสบายในการจับจ่ายใช้สอย และได้รับประโยชน์จากโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษ 2) ร้านค้าผู้ประกอบการ เพิ่มโอกาสในการขาย ไม่ต้องรับชำระด้วยเงินสด โดยเฉพาะรายเล็ก ไม่ต้องเก็บเงินสด ได้รับความสะดวกในด้านการบริหารเงินรายได้ มีโอกาสขยายกิจการและสร้างความเติบโตให้ธุรกิจได้ง่ายขึ้นจากการตรวจสอบฐานข้อมูลที่มีกับธนาคาร
3) ธุรกิจค้าปลีกและศูนย์การค้า ได้ประโยชน์ในแง่ความเติบโตของตลาดค้าปลีกที่มากถึง 10-20% และซีพีเอ็นคาดหวังว่าจะช่วยสร้าง Traffic ใหม่ๆ ให้กับทุกศูนย์ฯ มากขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% เนื่องจากผู้บริโภคได้รับความสะดวกในการใช้จ่ายและสิทธิประโยชน์จากโปรโมชั่น 4) วงการการเงินการธนาคาร สามารถลดต้นทุนในการบริการเงินสด สามารถมอบบริการทางธุรกรรมการเงินแก่ลูกค้าได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และโอกาสในการเข้าถึงพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภค รวมถึงขยายฐานลูกค้า Mobile Banking คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะ 30 ล้านบัญชี 5) ประเทศชาติ ที่สามารถลดต้นทุนทางเศรษฐกิจ อาทิ การผลิตเหรียญและธนบัตร ลดปัญหาเงินปลอม รวมถึงเศรษฐกิจเติบโตจากภาคประชาชนที่ใช้จ่ายมากขึ้นและภาคธุรกิจที่ขยายตัว