นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ที่ประชุมสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) ได้มีมติให้จัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 27000-28000 เมกะเฮิร์ตช(MHz) สำหรับบริการ 5G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อรองรับการใช้งานข้อมูลที่จะเพิ่มมากขึ้น
“ที่ประชุมคาดว่าปริมาณการใช้บริการข้อมูลจะเพิ่มขึ้นมากมายมหาศาล จนคลื่นความถี่ที่มีอยู่อาจจะไม่เพียงพอจึงควรเตรียมคลื่นความถี่ไว้รองรับความต้องการในอนาคต ที่ประชุมเห็นตรงกันว่าคลื่นย่าน 27000 -31000 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งใช้ในกิจการดาวเทียมอยู่มีความเหมาะสมจะให้นำมาเป็นคลื่นความถี่เพิ่มเติม สำหรับให้บริการ 5G หรือ 6G ซึ่งจะมีการประชุมหารือในรายละเอียดอีก 1-2 ครั้งก่อนจะได้ข้อสรุปและลงสัตยาบันร่วมกันในเดือน ส.ค.61นี้" นายฐากร กล่าว
นายฐากร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันไทยใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 27000-31000 เมกะเฮิร์ตช สำหรับกิจการดาวเทียม ดังนั้นหากมีการทำสัตยาบันนำคลื่นย่าน 27000-28000 เมกะเฮิร์ตช มาใช้สำหรับบริการ 5G จะไม่กระทบต่อการใช้งานเดิม เนื่องจากเป็นการใช้งานจำนวนไม่มากในกิจการดาวเทียม และสามารถใช้งานคลื่นความถี่ซ้ำได้
ทั้งนี้ประเทศสมาชิก ITU ร้อยละ 80 เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว รวมทั้งประเทศไทยสำหรับคลื่นความถี่ย่าน 900 เมกะเฮิร์ตช และ 1800 เมกะเฮิร์ตช ที่ไทยจัดสรรรองรับกิจการโทรคมนาคม ที่รวมถึงบริการ 5G ในอนาคต สามารถใช้งานควบคู่กับบริการ 5G บนคลื่นความถี่ย่าน 27000-28000 เมกะเฮิร์ตชได้ เพื่อรองรับจำนวนผู้ใช้งานที่มากขึ้น
นอกจากนี้การจัดสรรคลื่นความถี่ย่าน 27000-28000 เมกะเฮิร์ตชสำหรับบริการ 5G เป็นประโยชน์โดยตรงต่อ IoT(Internet Of Things ) ในด้านการใช้งานข้อมูลด้วย