หุ้น RS ราคาขยับขึ้น 2.86% มาอยู่ที่ 27 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 50.18 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.34 น. โดยเปิดตลาดที่ 26.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 27.25 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 26.50 บาท
บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น บมจ.อาร์เอส (RS) ธุรกิจ Turnaround ชัดเจน และราคาหุ้นมี Upside น่าสนใจ โดยชอบ RS จากแผนธุรกิจที่น่าสนใจ ด้วยการนำจุดแข็งเดิมด้านสื่อฯ ที่หลากหลาย มาต่อยอดด้วยธุรกิจสุขภาพและความงามที่มีอัตราเติบโตสูง ทำให้ RS กลายเป็นหุ้นกลุ่มสื่อที่มีทั้ง Growth Driver และความสามารถในการกระจายความเสี่ยงที่ดีขึ้น อีกทั้งราคาหุ้นปัจจุบันยังมี Upside 21.9% จากมูลค่าพื้นฐานใหม่ปี 2561 ที่ 32 บาท (วิธี DCF)
ช่วงไตรมาส 4/60 คาด RS พลิกมีกำไรสุทธิ 91 ล้านบาท จากขาดทุน 63 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 4/59 โดยมีปัจจัยหนุน ดังนี้ 1) รายได้รวมคาดโตเด่น 92.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนด้วยธุรกิจสุขภาพและความงามที่มียอดขายโตก้าวกระโดด หลังเพิ่มสินค้าใหม่ 6 SKU และขยายกำลังให้บริการของ Call Center รองรับคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น พร้อมทำ Out-bound Call กับลูกค้าที่เคยมีประวัติโทรสั่งสินค้ามากขึ้น ขณะที่รายได้ของธุรกิจดิจิตอลทีวีแม้ได้รับผลจากเม็ดเงินโฆษณาที่ลดลงในช่วงไว้อาลัย แต่คาดไม่รุนแรงเช่นปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้วางแผนลดต้นทุน Content ในเดือน ต.ค. และขายโฆษณาล่วงหน้าในรูปแบบ Package รายปีไว้ล่วงหน้า
2) อัตรากำไรขั้นต้นคาดดีขึ้นจาก 10.1% ในช่วงไตรมาส 4/59 เป็น 43.8% หลังมีสัดส่วนรายได้ธุรกิจสุขภาพและความงามเพิ่มขึ้น (มาร์จิ้น 65-70%) อีกทั้งคาดต้นทุนค่าธรรมเนียมใบอนุญาตดิจิตอลทีวีลดลงราว 20 ล้านบาท ตามเกณฑ์ใหม่ของ กสทช. และ 3) SG&A/Sales คาดลดลงเป็น 35.6% จาก 45.5% ในช่วงไตรมาส 4/59 หลังค่าใช้จ่ายเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ลดลง ทำให้คาดปี 2560 พลิกมีกำไรสุทธิ 314 ล้านบาท (ลดลงจากประมาณการเดิม 4.3%) จากขาดทุน 102 ล้านบาทในปี 2559
สำหรับปี 2561 คาดธุรกิจสุขภาพและความงามจะยังโตเด่น หนุนด้วยแผนออกผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 30 SKU (Life Star + Partner Product) ซึ่งคาดจะได้รับผลตอบรับดี จากการใช้ประโยชน์จากสื่อที่มีในมือมาโฆษณาสินค้า บวกกับ เตรียมเพิ่มพนักงาน Call Center 120 ที่นั่ง อีกทั้งล่าสุดบริษัทเปิดตัวธุรกิจใหม่ Life Star Biz รับสมัครตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มช่องจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Life Star ซึ่งเรามองว่าจะไม่เกิด Cannibalize กับธุรกิจเดิม เพราะมีการแบ่งตลาดชัดเจน (LSB จะเน้นขายส่งสินค้าประเภท Food Supplement และต้องมียอดสั่งซื้อต่อ Order ค่อนข้างสูงเพื่อรับส่วนลดที่คุ้มค่า)
ขณะที่ธุรกิจดิจิตอลทีวีคาดจะเห็นการฟื้นตัวตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/61 จากเม็ดเงินโฆษณาที่จะเพิ่มขึ้นหลังผ่านช่วงไว้อาลัย บวกกับ การปรับค่าโฆษณาขึ้นเพื่อสะท้อน Rating ของช่อง 8 ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง และเริ่มนำรายการที่มี Rating สูงในช่วง Prime Time มาขายในรูปแบบ Package แยก (มาร์จิ้นสูงขึ้น) เพื่อสะท้อนถึงปัจจัยบวกดังกล่าว จึงปรับประมาณการณ์กำไรตั้งแต่ปี 2561 ขึ้นเฉลี่ยปีละ 25.5% โดยภายใต้ประมาณการณ์ใหม่คาดปี 2561 RS จะมีกำไรสุทธิ 899 ล้านบาท โตเด่น 186.5% จากปีที่แล้ว