นายสุวิทย์ วรรณะศิริสุข ผู้อำนวยการสายบัญชีและการเงิน บมจ.ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (TLUXE) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 61 ที่ 2.5-2.6 พันล้านบาท จากปีก่อนที่คาด 1.8 พันล้านบาท โดยเป็นรายได้จากอาหารสัตว์ที่ราว 2.4 พันล้านบาท หรือเติบโตราว 33% เนื่องจากภาพรวมธุรกิจอาหารสัตว์น้ำกุ้งและปลามีการเติบโตสูงขึ้น และมาจากพลังงานไฟฟ้าใต้พิภพที่จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปี อีกราว 100-200 ล้านบาท หลังจากเปิดดำเนินการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) 15 โครงการ
นอกจากนี้ การเติบโตของธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในปีนี้ จะมาจากการปรับกลยุทธ์เชิงรุกในด้านการทำตลาดที่เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น โดยเน้นการจัดงานสัมมนาเชิงวิชาการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการในพื้นที่ที่มีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ กุ้ง และ ปลาโดยตรง ซึ่งจากการดำเนินการดังกล่าวยังสามารถสร้างความเชื่อมั่นในตัวผลิตภัณฑ์ และ แบรนด์สินค้าของบริษัทได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด โดยบริษัทฯวางงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง “มั่นใจว่าภาพรวมธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในปีนี้ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 37% โดยตั้งเป้าการขายอาหารสัตว์น้ำในปี 61 อยู่ที่ 8 หมื่นตัน ล่าสุดในไตรมาส 1/61 ได้เปิดฐานตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่หลายรายทั้งที่เป็นลูกค้าใหม่ และ ลูกค้าเก่ากลับมาซื้อใหม่ รวมถึงขยายฐานลูกค้าสู่ประเทศมาเลเซียเพื่อรองรับคำสั่งซื้อ และ ยอดการผลิตที่เพิ่มขึ้น บริษัทจึงได้มีการเพิ่มไลน์การผลิตที่โรงงานจังหวัดสงขลา เพื่อกระจายสินค้าเพิ่มขึ้นให้ทัน ต่อความต้องการของลูกค้าทำให้กำลังการผลิตแตะที่ระดับ 80% ของกำลังผลิตรวม"นายสุวิทย์ กล่าว
สำหรับสัดส่วนรายได้ในปีนี้จะมาจากอาหารสัตว์ 95% และ รายได้จากพลังงาน 5% แต่สัดส่วนรายได้จากพลังงานจะเพิ่มเป็น 25% ภายในปี 65 โดยบริษัทฯได้วางงบลงทุนสำหรับปี 61-62 ไว้ราว 5 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนโครงพลังงานความร้อนใต้พิภพให้เพิ่มขึ้นเป็น 56 โครงการ หรือกำลังการผลิตเทียบเท่ากับ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 56 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จและจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว 15 โครงการ และอีก 9 โครงการอยู่ระหว่างก่อสร้างและจะสามารถ COD ได้ในเดือน เม.ย. นี้ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างเตรียมการลงทุนในโครงการที่เหลืออีก 28 โครงการที่คาดว่าจะชัดเจนภายในปีนี้
นอกจากนี้ยังมีโครงการพลังงานลมที่บริษัทฯ วางเป้าหมายจะลงทุนให้ครบ 200 โครงการ จากล่าสุดได้มีมติคณะกรรมการบริษัทอนุมัติลงทุน จำนวน 7 โครงการ ปัจจุบันได้ COD แล้วจำนวน 6 โครงการ และ จะเปิดดำเนินการเพิ่มในเดือน ก.พ. 61 นี้อีก 1 โครงการ
สำหรับเงินลงทุนจะมาจากการออกหุ้นกู้ โดยยังมีวงเงินเหลือมากกว่า 1 พันล้านบาท จากที่ก่อนหน้านี้ออกไป 260 ล้านบาท ดอกเบี้ย 6.25% และ อีกส่วนหนึ่งจะมาจากเงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งเงินกู้จะมาจากธนาคาร EXIM BANK โดยบริษัทตั้งเป้ารักษา D/E ไม่ให้เกิน 2.5 เท่า จากปัจจุบัน 2 เท่า