นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มภาคธุรกิจจริง (real sector) หลังจากที่เมื่อวานนี้ SCC ได้ประกาศผลประกอบการปี 60 ออกมาพร้อมกับจ่ายปันผล ซึ่งทำให้มีแรงซื้อเข้ามา รวมถึงยังมีแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับเข้ามาช่วยหนุนการลงทุนด้วย ส่วนแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศมีเข้ามาเป็นส่วนน้อย ซึ่งยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน
นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากที่หน่วยงานรัฐบาล จะทยอยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในช่วงนี้จนถึงสิ้นเดือนม.ค.ซึ่งยังคงมีทิศทางที่ดี
ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศยังต้องจับตาทั้งในฝั่งยุโรป ที่วันนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และฝั่งสหรัฐ ทั้งในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจและการเมือง และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย
อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นอีกรอบ ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ให้ปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,845 และ 1,852 จุด แม้ดัชนีหุ้นไทยจะเดินหน้าทำสถิติใหม่ต่อเนื่องในช่วงนี้ แต่ก็ยังเป็นลักษณะการเลือกลงทุนหุ้นรายตัว โดยวอลุ่มการซื้อขายเริ่มลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5-6 หมื่นล้านบาท/วัน จากเดิมที่สูงถึงระดับ 7-8 หมื่นล้านบาท/วัน
พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,830 และ 1,825 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,845 และ 1,852 จุด