(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้น ลุ้นทดสอบ 1,845 จุด ขานรับราคาน้ำมันพุ่งหนุนหุ้นพลังงาน-บจ.จ่ายปันผล

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday January 25, 2018 10:10 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณฆัส จิรเสวีนุประพันธ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า การเคลื่อนไหวของดัชนีหุ้นไทยวันนี้ ยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากภายในประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะการทยอยประกาศผลประกอบการของกลุ่มภาคธุรกิจจริง (real sector) หลังจากที่เมื่อวานนี้ SCC ได้ประกาศผลประกอบการปี 60 ออกมาพร้อมกับจ่ายปันผล ซึ่งทำให้มีแรงซื้อเข้ามา รวมถึงยังมีแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศกลับเข้ามาช่วยหนุนการลงทุนด้วย ส่วนแรงซื้อจากนักลงทุนต่างประเทศมีเข้ามาเป็นส่วนน้อย ซึ่งยังมีทิศทางที่ไม่ชัดเจน

นอกจากนี้ตลาดหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากที่หน่วยงานรัฐบาล จะทยอยรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของไทยในช่วงนี้จนถึงสิ้นเดือนม.ค.ซึ่งยังคงมีทิศทางที่ดี

ส่วนปัจจัยจากต่างประเทศยังต้องจับตาทั้งในฝั่งยุโรป ที่วันนี้จะมีการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และฝั่งสหรัฐ ทั้งในส่วนของตัวเลขเศรษฐกิจ และทิศทางนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทั้งในเรื่องของเศรษฐกิจและการเมือง และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนด้วย

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้นอีกรอบ ยังเป็นปัจจัยหนุนต่อหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมี ให้ปรับตัวขึ้นได้ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับขึ้นไปทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,845 และ 1,852 จุด แม้ดัชนีหุ้นไทยจะเดินหน้าทำสถิติใหม่ต่อเนื่องในช่วงนี้ แต่ก็ยังเป็นลักษณะการเลือกลงทุนหุ้นรายตัว โดยวอลุ่มการซื้อขายเริ่มลดลงมาอยู่ที่ระดับ 5-6 หมื่นล้านบาท/วัน จากเดิมที่สูงถึงระดับ 7-8 หมื่นล้านบาท/วัน

พร้อมให้แนวรับบริเวณ 1,830 และ 1,825 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,845 และ 1,852 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

-ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ม.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,252.12 จุด เพิ่มขึ้น 41.31 จุด (+0.16%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,837.54 จุด ลดลง 1.59 จุด (-0.06%), ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,415.06 จุด ลดลง 45.23 จุด (-0.61%)

  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 190.13 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 4.30 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 20.69 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 2.20 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.04 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.28 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.49 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ม.ค.61) 1,838.96 จุด เพิ่มขึ้น 7.18 จุด (+0.39%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 232.88 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ม.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน มี.ค. ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ม.ค.61) ปิดที่ระดับ 65.61ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ม.ค.61) ที่ 6.18 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.55 ก่อนขยับมาที่ 31.51 แข็งค่าในรอบกว่า 4 ปีตามทิศทางภูมิภาค หลังดอลล์อ่อน
  • รมว.คมนาคม สั่งสนข.ปรับแผนแม่บท 20 ปี การก่อสร้างมอเตอร์เวย์ของทล.และทางด่วนของ กทพ.ไม่ให้ทับซ้อน แบ่งชัดระหว่างเมือง-ในเมืองใครสร้าง เน้นเปิดเอกชนร่วมลงทุนตามนโยบายรัฐบาล ด้านทล.ชี้ตามแผนมี 21 เส้น วงเงิน 2 ล้านล้าน ยันลุยเหลมฉบัง-ปราจีน และโคราช-ขอนแก่น ขณะที่ กทพ.ถูกลดเหลือ 13 จาก 30 เส้นทาง
  • คลังเผยผลการจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2561 (ตุลาคม-ธันวาคม 2560) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จำนวน 547,678 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 23,732 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 4.5% โดยรายได้เพิ่มขึ้นมาจากการนำส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจสูงกว่าประมาณการ 9,556 ล้านบาท รายได้หน่วยงานอื่นเพิ่มขึ้น 4,848 ล้านบาท และกรมสรรพสามิต 388 ล้านบาท โดยภาษีที่จัดเก็บได้สูงกว่าเป้าหมายที่สำคัญ ได้แก่ ภาษีรถยนต์ 2,409 ล้านบาท และภาษีเบียร์ 483 ล้านบาท
  • ส.อ.ท.เผย ดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมเดือน ธ.ค.60 ทะลุ 89 สูงสุดในรอบ 35 เดือน ส่งสัญญาณชัด ศก.เริ่มฟื้น แต่ห่วงบาทแข็ง-ค่าแรงขั้นต่ำขยับขึ้น เป็นตัวฉุดความสามารถการแข่งขัน แนะให้เร่งดูแลและหามาตรการรับมือ พร้อมเผยยอดขายรถยนต์เดือน ธ.ค.พุ่งมั่นใจทั้งปีผลิตรถได้ 2 ล้านคัน
  • รมว.ท่องเที่ยวฯระบุ การประชุมรมต.ด้านการท่องเที่ยวอาเซียน ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ ที่ รร.แชงกรี-ลา จ.เชียงใหม่ จะหารือร่วมกันใน 3 เรื่องหลัก คือ การส่งเสริมการท่องเที่ยวยั่งยืน เพื่อสร้างความสมดุลของการท่องเที่ยวที่จะไม่สร้างภาระให้กับแหล่งท่องเที่ยว ทั้งด้านการใช้ทรัพยากร สิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของเจ้าของแหล่งท่องเที่ยว การสร้างการเชื่อมโยงด้านการเดินทางระหว่างกัน ซึ่งทำให้การถ่ายเทนักท่องเที่ยว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สุดท้าย คือ การนำเสน่ห์ของอาหารเป็นสีสันของอาเซียน โดยสร้างเป็นจุดขายที่มีทั้งความเหมือนและความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค
  • ผู้บริหาร SENA มองแนวโน้มตลาดอสังหาริมทรัพย์ไทยปีนี้จะขยายตัวได้ 7-8% เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้นต่อเนื่อง ทั้งการลงทุนของภาครัฐที่มีโครงการออกมาต่อเนื่อง การท่องเที่ยวและการส่งออกที่เติบโต รวมถึงอัตราดอกเบี้ยทรงตัว และการแข่งขันเสนอให้สินเชื่อที่อยู่อาศัยที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเฉลี่ย 3% ส่งผลให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นและกลับมาตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
  • กระทรวงพาณิชย์จัดประชุมทุกกลุ่มอุตสาหกรรม 13 ห้างค้าส่งค้าปลีกสมัยใหม่ ผู้ผลิตสินค้ากว่า 100 รายขอความร่วมมือไม่ให้ปรับขึ้นราคาหลังค่าจ้างขั้นต่ำเพิ่มขึ้น ชี้ผลกระทบแค่ 1% ส่วนขายปลีกน้ำตาลลอยตัวแล้วลดลง 2 บาท/กก.
  • "ทรัมป์" ลงนามเรียกเก็บภาษีนำเข้า "แผงโซลาร์เซลล์-เครื่องซักผ้า" มีผล 7 ก.พ. รัฐบาลเชื่อระยะสั้นยังไม่กระทบ ขณะ "พาณิชย์" ยอมรับไทยส่งออกไปสหรัฐ เพิ่มต่อเนื่อง แนะผู้ประกอบการหาตลาดอื่น ด้าน "ทีดีอาร์ไอ" ห่วงเป็นจุดเริ่มต้นสงครามการค้า หวั่นไทยตกเป็นเป้า เหตุเกินดุลการค้าสหรัฐมาก ขณะนักเศรษฐศาสตร์เตือนผู้ประกอบการไม่ควรประมาท
*หุ้นเด่นวันนี้
  • CPF (ทรีนีตี้) แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 27.50 บาท แม้คาดกำไรสุทธิสำหรับ 4Q60 ที่ 2,410 ล้านบาท หากตัดรายการพิเศษจากการขายเงินลงทุนและรายการพิเศษอื่น ๆ คาดกำไรปกติจากการดำเนินงานราว 59 ล้านบาท อ่อนตัวลง 97% QoQ และ 98% YoY ผลกระทบส่วนหนึ่งจากปัจจัยฤดูกาล อีกทั้งราคาสัตว์บกในประเทศลดลงค่อนข้างมาก ขณะที่ธุรกิจต่างประเทศส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี ยกเว้นหมูในเวียดนาม และ Bellisio ในสหรัฐฯรับผลกระทบการแข่งขัน แต่ปี 61 อาจเห็นแนวโน้มราคาสัตว์บกในประเทศดีขึ้นแต่ยังไม่ดีเท่ากับที่คาดไว้ จึงปรับประมาณการกำไรปกติปีนี้ลงเหลือ 7,791 ล้านบาท แต่ยังพอมี Upside
  • DDD (เคทีบีฯ) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 125 บาท คาดรายได้ในประเทศปี 61-65 จะโตสูงต่อเนื่องมี CAGR 33% จากตลาดสกินแคร์แนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องคาด CAGR ที่ 4.9%, ขยายช่องทางการจัดจำหน่าย เช่น King Power ปัจจุบันมี 2 สาขา คาดปีนี้จะขยายจุดจำหน่ายอีก 3-4 สาขา,รุกช่องทาง Traditional Trade เปิดสาขา Namu Life Shop,ออก 3-4 ผลิตภัณฑ์ใหม่/ปี มีแผนเจาะ untapped segment เช่น anti-aging, for men , เล็งสร้างแบรนด์ใหม่ขยายฐานลูกค้ากลุ่ม mass หรือ premium brand,เพิ่มขนาดของผลิตภัณฑ์หลากหลาย ส่วนการขยายตลาดต่างประเทศยังอยู่ในระยะเริ่มแรก และยังมีโอกาสเติบโตสูง คาดว่ารายได้ตลาดต่างประเทศปี 61-65 จะมี CAGR อยู่ที่ 37%
  • SCC (เมย์แบงก์ กิมเอ็งฯ)แนะนำ"ซื้อ"ลักษณะลงทุน เป้าหมาย 550 บาท กำไร 4Q60 โตเล็กน้อย 12,567 ล้านบาท (+6%QoQ, +1%YoY) ปี 61 คาดจะถูกกดดันจากต้นทุน Naphtha สูงขึ้นตามราคาน้ำมันดิบและสเปรดปิโตรเคมีแคบลง ส่วนธุรกิจปูนยังไม่ฟื้นมากนัก โดยประเมินกำไร 52,012 ล้านบาท ลดลงต่อ 5.5% อย่างไรก็ตาม SCC ซื้อขาย P/E ต่ำ กระแสเงินสดสูง จ่ายปันผลกำไรครึ่งหลัง 60 เท่ากับ 10.5 บาท รวมจ่ายปันผลกำไรปี 60 เท่ากับ 19 บาท

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ