ขณะที่กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ยืนยันสนับสนุนการเดินหน้าขยายธุรกิจ หนุนเงินทุนก้อนใหม่ด้วยการแปลงสิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของ FER รุ่นที่ 3 (FER-W3) ที่จะครบกำหนดในวันที่ 31 ม.ค.นี้ โดยทีมบริหารเตรียมแผนงานรุกธุรกิจพลังงานทดแทนด้วยการตั้งเป้าหมายจะมีกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งไบโอแมสและไบโอแก๊สเพิ่มเป็น 20 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้
นอกจากนั้น ยังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศ และศึกษาการขยายไปสู่ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภค (Utility) รวมทั้งศึกษาการต่อยอดธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารประเภทบริการวิทยุคมนาคมเฉพาะกิจระบบ Trunk radio
"ปีที่แล้วเราล้างบ้านครั้งใหญ่ ปรับเปลี่ยนโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่และทีมบริหารใหม่เกือบทั้งหมด แล้วก็กำลังจะเปลี่ยนชื่อเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ ช่วงที่ผ่านมาก็ให้ EY เข้ามาดูบัญชีด้วย เรายอมให้บันทึกด้อยค่ามากกว่า 100 ล้านบาทจากธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมของเดิมที่ลดขนาดลงไป และมีด้อยค่าจากเงินลงทุนอื่น ๆ ทำให้ 9 เดือนแรกของปี 60 ขาดทุนมาก แต่เริ่มเห็นกำไรตั้งแต่ไตรมาส 4 ของปีก่อนแล้วหลักสิบล้านบาท และในปีนี้เรามั่นใจว่าจะมีกำไร"นางสาวเดือนพรรณ กล่าว
ทั้งนี้ FER แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/60 ขาดทุนสุทธิ 16.31 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุนสุทธิ 47.16 ล้านบาท ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 60 ขาดทุน 225.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุน 127.98 ล้านบาท
นางสาวเดือนพรรณ กล่าวว่า ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทมีมติให้เปลี่ยนชื่อบริษัท และบริษัทได้ปรับโครงสร้างธุรกิจใหม่ แบ่งเป็น 3 ด้าน คือ ธุรกิจก๊าซ หลังจากที่ได้ซื้อกิจการบริษัท สตาร์ แก๊ส จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจค้าปลีกและค้าส่งก๊าซ LPG ซึ่งมีปั๊มก๊าซ LPG 30 สาขา และปั๊ม NGV 2 สาขา มีสัดส่วนรายได้ราว 70% ของรายได้รวมของบริษัท รวมทั้งการถือหุ้นใน บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP)
ส่วนธุรกิจพลังงาน มีสัดส่วนรายได้ราว 10-15% โดยมีโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สในภาคใต้ที่เข้าซื้อกิจการมาเมื่อปลายปีที่แล้ว ซึ่งจ่ายไฟฟ้าราว 4 เมกะวัตต์ และจะขยายเป็น 5 เมกะวัตต์เต็มกำลังผลิตตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.61 และธุรกิจอุปกรณ์สื่อสาร Trunk radio สัดส่วนรายได้ราว 10-15% ใกล้เคียงกัน
แผนงานในปี 61 บริษัทจะรุกขยายธุรกิจพลังงานทดแทนเต็มที่เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคง โดยตั้งเป้าเบื้องต้นที่จะมีกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่มเป็น 20 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ จากโรงไฟฟ้าไบโอแก๊สและไบโอแมสที่ใช้เชื้อเพลิงจากไม้สับ และ RDF ในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งบริษัทมีแผนจะลงทุนไว้แล้ว รวมทั้งอยู่ระหว่างเจรจาเข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเพิ่มเติมด้วย
นอกจากนั้น บริษัทยังถือสิทธิการจัดการขยะในจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาว่าจะลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าขยะขนาด 1.5-2 เมกะวัตต์ หรือลงทุนทำธุรกิจโรงคัดแยกขยะ หรือนำขยะมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่งประเภท RDF คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้
ด้านธุรกิจอุปกรณ์สื่อสารนั้น บริษัทได้ศึกษาการต่อยอดธุรกิจ จากปัจจุบันรับวางระบบ ให้เช่าและขายอุปกรณ์ Trunk radio ซึ่งยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีตามการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ของภาครัฐและเอกชนที่มีความจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์สื่อสารภายในโครงการ เช่น การขยายสนามบินและรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาเพื่อเข้าซื้อกิจการผู้พัฒนาแอพพลิเคชั่นเกี่ยวกับอุปกรณ์ดังกล่าวมาเสริมกับธุรกิจเดิม
สำหรับธุรกิจก๊าซ คาดว่าปีนี้น่าจะสร้างรายได้ราว 700 ล้านบาท โดยบริษัทกำลังศึกษาว่าจะพัฒนาธุรกิจนี้ไปอย่างไร รวมทั้งการถือหุ้นใน WP ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ตรวจสอบพบในการจัดโครงสร้างบริษัทนั้น ก็อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะจัดการอย่างไร เนื่องจากหุ้น WP กำลังจะได้กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 1 ก.พ.นี้ หากราคาหุ้นสามารถสร้างกำไรได้ บริษัทอาจจะขายหุ้นออกเพื่อนำเงินมาใช้ในการลงทุนขยายธุรกิจต่อไป
บริษัทยังศึกษาการทำธุรกิจประเภทให้บริการสาธารณูปโภคในด้านต่างๆ (Utility) ซึ่งเป็นการต่อยอดจากธุรกิจผลิตไฟฟ้าไปสู่บริการด้านอื่น ๆ ด้วย
นางสาวเดือนพรรณ กล่าวว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นหลังการปรับโครงสร้างใหม่พร้อมจะสนับสนุนด้านเงินทุนในการขยายธุรกิจ ซึ่งส่วนแรกจะมีการแปลงสิทธิ FER-W3 ที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนนี้ นอกจากนั้น บริษัทยังหารือกับธนาคารพาณิชย์ 2-3 แห่งเพื่อขอการสนับสนุนสินเชื่อ และศึกษาการใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นที่อาจรวมถึงการเพิ่มทุนหากมีโครงการลงทุนขนาดใหญ่ในอนาคตด้วย