นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า กองทุน LTF และ RMF ภายใต้การบริหารจัดการของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกองทุน RMF มียอดเงินลงทุนใหม่ในปี 60 เติบโตขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และสูงกว่าอุตสาหกรรมซึ่งเติบโตเฉลี่ยอยู่ที่ 12%
ทั้งนี้เนื่องมาจากกองทุน RMF ของ บลจ.กสิกรไทยที่มีนโยบายการลงทุนในเลือกหลากหลายรวมทั้งสิ้น 15 กองทุน ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น ประกอบกับมีหลายกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้น่าสนใจ นอกจากนี้พบว่าลูกค้ามีการลงทุนผ่านช่องทางดิจิตอลเพิ่มมากขึ้น อาทิ App K PLUS และ App K-My Funds โดยในปี 20 ที่ผ่านมา มีจำนวนลูกค้าที่ลงทุนในกองทุน LTF/RMF ผ่านช่องทางดิจิตอลคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 52% โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าซึ่งมีสัดส่วนอยู่ที่ 32% เทียบจากจำนวนลูกค้าทั้งหมดที่ลงทุนในกองทุน LTF/RMF กสิกรไทย
สำหรับกองทุน LTF ที่มียอดขายสูงสุดในปี 60 ได้แก่ กองทุนเปิดเค 20 ซีเล็คท์หุ้นระยะยาวปันผล (K20SLTF) ที่มีนโยบายเน้นการคัดเลือกหุ้นเด่นที่มีศักยภาพสูงไม่เกิน 20 ตัว ส่วนกองทุน RMF ของบลจ.กสิกรไทยที่มียอดขายสูงสุดในปี 60 ได้แก่ กองทุนเปิดเค Mid Small Cap หุ้นทุนเพื่อการเลี้ยงชีพ (KMSRMF) ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กซึ่งมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท
ด้านผลการดำเนินงานกองทุน K20SLTF มีความโดดเด่นโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีย้อนหลัง ซึ่งให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 12.16% ต่อปี โดยติดเป็นอันดับ 1 ใน 5 ของกลุ่มกองทุน LTF ทั้งหมดในอุตสาหกรรมซึ่งมีอยู่ประมาณ 76 กอง ส่วนผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี อยู่ที่ 16.99% ต่อปี (ที่มา Morningstar ณ 29 ธ.ค. 60) ด้านกองทุน KMSRMF สามารถสร้างผลการดำเนินงานที่โดดเด่นด้วยเช่นเดียวกัน โดยมีผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วง 1 ปี สูงเป็นอันดับที่ 2 ในกลุ่ม RMF หุ้นไทยทั้งหมดในอุตสาหกรรม โดยให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 27.58% ต่อปี ส่วนผลดำเนินงานย้อนหลัง 6 เดือน ให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 19.67% (ที่มา Morningstar ณ 29 ธ.ค. 60)
นางสาวยุพาวดี กล่าวต่อไปว่า บลจ.กสิกรไทย ยังมีมุมมองในเชิงบวกต่อตลาดหุ้นไทยในปี 61 ว่ายังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุนในกองทุน LTF/RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้นไทย โดยอาจอาศัยจังหวะทยอยเข้าซื้อสะสมในระหว่างปีเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวได้ ส่วนผู้ลงทุนที่ถือครองครบกำหนดเงื่อนไขแล้ว หากยังไม่มีแผนใช้เงิน แนะนำให้ถือต่อเนื่องเพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทน เนื่องจากตลาดหุ้นไทยในปีนี้ยังมีทิศทางที่ดีและมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน
อีกทั้งจากข้อมูลพบว่าหากลงทุนในตลาดหุ้นได้ระยะยาวจะยิ่งให้ผลตอบแทนที่ดี โดย 10 ปีย้อนหลังให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี ขณะที่เมื่อเทียบกับผลตอบแทนย้อนหลัง 5 ปี ของนักลงทุนที่ถือครอง LTF ครบเงื่อนไข 5 ปีปฏิทิน ในภาพรวมของอุตสาหกรรม ผลตอบแทนรวมเงินปันผลจะอยู่ที่ 29% หรือเฉลี่ย 8.8% ต่อปี (ข้อมูลจากมอร์นิ่งสตาร์ ตั้งแต่สิ้นปี57-3 ม.ค.61)