หุ้น PLANB ราคาวิ่งขึ้น 4.62% มาอยู่ที่ 6.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 252.56 ล้านบาท เมื่อเวลา 11.17 น. โดยเปิดตลาดที่ 6.60 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 6.85 บาท และราคาทำระดับต่ำสุดที่ 6.50 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้นบมจ. แพลน บี มีเดีย (PLANB) โดยมองการประกาศเข้าซื้อหุ้น 19.48%ในบริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) นั้นเป็นการขยายสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าใต้ดิน โดยการลงทุนครั้งนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยสร้างศักยภาพความสามารถในการแข่งขันและการเติบโตในระยะยาว ซึ่งมีการวางแผนขยายสื่อโฆษณาใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รองรับตลาดสื่อโฆษณานอกบ้าน Out of home media (OOH media) ที่ยังมีแนวโน้มเติบโตได้อีกมากจากสัดส่วนคิดเป็นเพียงแค่ 13% ของสื่อโฆษณาโดยรวม และจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้เวลานอกบ้านเพิ่มขึ้นประกอบกับ OOH media เป็นสื่อโฆษณาที่ยังถูกเทียบกับสื่อโฆษณาดั้งเดิม พร้อมคาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 2 ปีที่ 27% (ปี 61-62) โดยราคาเป้าหมายอยู่ที่ 7.8 บาท
นอกจากนี้ PLANB ยังมีแผนขยายสัดส่วนการเข้าถือหุ้นในแบงคอก เมโทรฯไปถึง 28%-30% ภายในปีนี้ ทำให้มองว่าการขยายการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาสื่อร่วมกันช่วยสร้างศักยภาพในการแข่งขัน และความมั่นคงในการทำสื่อโฆษณาในระบบรถไฟฟ้าใต้ดินจากสัมปทานที่มีระยะยาว 30 ปี และโอกาสจากการขยายสื่อจากการขยายสายสีต่าง ๆ ของรถไฟฟ้าใต้ดิน สำหรับเงินลงทุนครั้งนี้มาจากกระแสเงินสด
ทั้งนี้ คาด PLANB จะมีกำไรสุทธิ ปี 60 ที่ 498 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 41% จากปีก่อนหน้า คาดกำไรในไตรมาส 4/60 จะอ่อนตัวลง 15% เมื่อเทียบไตรมาสก่อน จากช่วงพิธีสำคัญในเดือน ต.ค. โดยคาดอุตสหกรรมสื่อนอกบ้านยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากสัดส่วนที่ยังต่ำเพียง 13% ของสื่อรวม สำหรับ PLANB คาดรายได้เติบโตต่อเนื่องจากการรับรู้รายได้จากการขยายสื่อใหม่ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาราว 30% และมีแผนจะเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% ครอบคลุมพื้นที่ทุกสื่อรองรับแนวโน้มของเศรษฐกิจที่คาดจะฟื้นตัว คาดรายได้ปี 61-62 เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 18% (ยังไม่รวมสื่อต่างประเทศเนื่องจากสัดส่วนยังเล็กน้อยอยู่จากการเพิ่งเริ่มขยายสื่อ)
โดยคาดอัตราการใช้สื่อรวมปี 61-62 อยู่ที่ 75% คาดบันทึกรายได้ค่าธรรมเนียมการบริหารลิขสิทธิ์ฟุตบอลที่ 23%-25% ของรายได้การบริหารลิขสิทธิ์ที่ 600 และ 700 ล้านบาท ตามลำดับ อัตรากำไรขั้นต้นคาดดีขึ้นอยู่ที่ 36-37% จากรายได้จากการขยายสื่อใหม่ที่เพิ่มขึ้นในขณะที่ต้นทุนคงที่มีอัตราเพิ่มขึ้นช้ากว่าการเติบโตของรายได้ โดยคาดกำไรสุทธิ ปี 61-62 เติบโตเฉลี่ย 2 ปีละ 27% สำหรับข่าวการปรับอัตราภาษีป้ายโฆษณาจากภาครัฐฯ ที่อาจจะมีการปรับเพิ่มขึ้น จึงคาดจะส่งผลกระทบต่อกำไรสุทธิเล็กน้อยเพียง 2% (คำนวนจากคาดอัตราเพิ่มขึ้น 50%)