นายกมล บริสุทธนะกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บมจ.ทีพีบีไอ (TPBI) เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีความมั่นใจในภาพรวมผลการดำเนินงานปี 61 จะเติบโต 10% จากปีก่อน โดยมีปัจจัยมาจากการดำเนินกลยุทธ์ภายใต้ธีม Transformation อย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 เพื่อยกระดับการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกกลุ่ม General Packaging ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดที่ให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมและเทรนด์อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์พลาสติกโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลง ด้วยการพัฒนาสินค้าใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด เช่น บรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับภาคขนส่งเพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ E-commerce, ถุงใส่ผักผลไม้, ถุงสำหรับใส่ครีมตกแต่งหน้าเค้ก ตลอดจนการนำพลาสติกรีไซเคิลมาเป็นส่วนประกอบในการผลิต ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีทำให้มียอดปริมาณการผลิตที่เพิ่มสูงขึ้น
ทั้งนี้ ประเมินว่าสัญญาณคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่ม Transformation ยังมีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ หลังจากบริษัทได้นำเสนอผลิตภัณฑ์และได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า ส่งผลให้มีคำสั่งซื้อสินค้ากลุ่มดังกล่าวเพิ่มเติม เช่น การผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกสำหรับขนส่งพัสดุให้แก่บริษัทขนส่งสินค้ารายใหญ่ของไทย ที่คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในเดือนพฤษภาคมนี้ หรือคำสั่งซื้อบรรจุภัณฑ์พลาสติกประเภทถุงช็อปปิ้งที่มีส่วนผสมของพลาสติกรีไซเคิลในสัดส่วน 80% ซึ่งเป็นออร์เดอร์ใหม่จากผู้ประกอบการซูเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ในประเทศออสเตรเลีย
"ปีนี้เป็นปีที่ 2 ที่เราดำเนินกลยุทธ์ภายใต้ธีม Transformation เพื่อรับกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่ให้ความสำคัญการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เห็นได้จากคำสั่งซื้อสินค้าบรรจุภัณฑ์ประเภทหูหิ้วในกลุ่ม General Packaging ที่กำหนดให้ใช้พลาสติกรีไซเคิลเป็นวัตถุดิบในการผลิต 50-80% ดังนั้น เราจึงมีศักยภาพและความพร้อมในด้านการผลิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจและผลการดำเนินงานในปีนี้ที่จะกลับมาเติบโตได้ดีอีกครั้ง"นายกมล กล่าว
นายกมล กล่าวว่า ขณะเดียวกัน บริษัทจะมีกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์ Flexible Packaging เพิ่มขึ้น ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่ม Value Added ที่มีอัตรากำไรที่ดี โดยเพิ่มกำลังการผลิต Multilayer Film อีก 2,500 ตันต่อปี จากเดิมมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 9,000 ตันต่อปี และขยายกำลังการผลิตบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนสำหรับสินค้าอุปโภคบริโภคอีก 100 ล้านเมตรต่อปี คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะเริ่มเดินเครื่องจักรเชิงพาณิชย์ภายในกลางปี 61 ซึ่งจะเพิ่มศักยภาพการดำเนินธุรกิจและสนับสนุนผลการดำเนินงานปีนี้เติบโต 10% ได้ตามแผน
ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานในปี 60 บริษัทประเมินว่าจะอยู่ในช่วงภาวะอ่อนตัวเมื่อเทียบกับปี 59 ที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงของการเริ่มต้น Transformation ธุรกิจ เพื่อปรับพอร์ตการผลิตสินค้าให้สอดคล้องกับทิศทางตลาดโลก จึงจำเป็นต้องอาศัยเวลาในการพัฒนาสินค้าและแนะนำผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์ใหม่ ๆ ให้แก่ลูกค้า แม้ว่าภาพรวมจะมียอดคำสั่งซื้อสินค้าในกลุ่ม Transformation เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจาก 9 เดือนแรกมีปริมาณการผลิตสินค้าจากกลุ่มดังกล่าวสูงถึง 3,985 ตัน แต่ยังไม่สามารถชดเชยกับการชะลอตัวของคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ถุงพลาสติกประเภทหูหิ้วได้เท่าที่ควร ขณะเดียวกันยังได้รับผลกระทบจากภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อแรงกดดันของผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา