นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) หรือดีแทค กล่าวว่า จากแนวโน้มการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นและดิจิทัลไลฟ์สไตล์ของไทย ทำให้ดีแทคปรับตัวเองมุ่งสู่การเป็นแบรนด์ดิจิทัลที่ลูกค้าชื่นชอบภายในปี 63 โดยดีแทคตั้งเป้าหมายในการสร้างรายได้จากช่องทางดิจิทัลถึง 35% จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนเลขหลักเดียว เช่นเดียวกับงานบริการลูกค้าผ่านช่องทางดิจิทัลถึง 95% เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันเท่าตัว ขณะเดียวกัน งบการตลาดจะถูกโยกไปยังช่องทางดิจิทัลถึง 65% หรือมากกว่าปัจจุบันกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับปัจจุบัน
"ดีแทคมีการเติบโตด้านดิจิทัลอย่างมีนัยสำคัญในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์องค์กรสู่การเป็นแบรนด์ดิจิทัลในปี 63" นายลาร์ส กล่าว
การทำการตลาดออนไลน์ผ่านนวัตกรรมดิจิทัล พัฒนาการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ตลอดจนกระตุ้นการใช้งานและบริการให้ดีขึ้น ทั้งทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น ทำให้ปีที่ผ่านมาการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชันดีแทคเพิ่มขึ้นเท่าตัว ในขณะที่การเพิ่มยอดขาย (upselling) จากแอปดีแทคมีสัดส่วนที่ 60%
จากตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงความสำคัญในการพัฒนาช่องทางดิจิทัลให้ดีขึ้น สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้งานในอนาคต ทำให้ดีแทคต้องเพิ่มตำแหน่งงานด้านดิจิทัลอีกกว่า 200 ตำแหน่งในปี 63 ขณะเดียวกัน ดีแทควางแผนที่จะปรับเพิ่มและลดการลงทุนในหลายด้าน ปรับรูปแบบการจัดการในองค์กร และลดความยุ่งยากซับซ้อนในกระบวนการการทำงาน เพื่อให้องค์กรขับเคลื่อนได้อย่างคล่องตัวและพนักงานมีศักยภาพในการทำงานมากขึ้น โดยดีแทคตั้งเป้าหมายการบริหารขนาดขององค์กรให้มีตำแหน่งงานประจำจำกัดจำนวนไว้ไม่เกิน 4,000 คนในปี 2563
"ดีแทค จะมุ่งเน้นในสิ่งที่เราสามารถทำได้ดี นั้นคือการมอบการบริการด้านดิจิทัลที่ดีที่สุด ที่ตรงความต้องการของลูกค้า และการเข้าถึงข้อมูลที่ครบถ้วนอย่างง่ายดาย โดยที่พนักงานทุกคนจะทุ่มเทกำลังทั้งหมดในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ และการบริการ เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า" นายลาร์ส กล่าว