Phnom Penh SEZ PLC (PPSEZ) ลงนามแต่งตั้ง บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด (APM) ปรึกษาทางการเงินสำหรับการเข้าจดทะเบียนแบบ Secondary Listing ในประเทศไทย โดยคาดว่าจะยื่นไฟลิ่งในช่วงต้นปี 62 หวังระดมทุนไปใช้ขยายนิคมอุตสาหกรรมใหม่
นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างเจรจาธุรกิจท่าเรืออุตสาหกรรมในกัมพูชา อีก 1 แห่ง เพื่อยื่นจดทะเบียนแบบ Secondary Listing คาดชัดเจนกลางปีนี้
ลก จุมเตียว อ่องญา ลิม ชิว โฮ ประธาน บริษัท Phnom Penh SEZ PLC หรือ บริษัท เขตเศรษฐกิจพิเศษ พนมเปญ จำกัด (มหาชน) (PPSEZ) บริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นตลาดที่ 2 (Secondary Listing) จากปัจจุบันบริษัทจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา โดยคาดว่าจะยื่นคำขออนุญาตและแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) และเข้าจดทะเบียนภายในปี 62
"เราเห็นโอกาสที่ตลาดหุ้นไทยมีศักยภาพในการเติบโต และมีนักลงทุนที่หลากหลาย รวมถึงมีเครื่องมือทางการเงินให้บริษัทเลือกใช้ระดมทุนได้มาก ซึ่งจะช่วยยกระดับประสิทธิภาพของบริษัทได้ในอนาคต" ประธาน PPSEZ กล่าว
PPSEZ ปัจจุบันเป็นผู้ประกอบการนิคมอุตสาหกรรมในเขตเศรษฐกิจพิเศษรายเดียวในตลาดหลักทรัพย์กัมพูชา โดยมีการพัฒนานิคมฯแห่งแรกตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญ พื้นที่ขนาด 300 เฮกตาร์ ซึ่งมีการขายพื้นที่ไปแล้วกว่า 85% โดยมีลูกค้าเป็นผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงเช้ามาใช้บริการเป็นส่วนใหญ่ และอยู่ระหว่างพัฒนาเฟสที่ 3 อีก 60 เฮกตาร์ เพื่อขยายพื้นที่การขาย
นอกจากนั้น บริษัทในเครือเดียวกันยังมีธุรกิจอื่นๆ ที่เอื้ออำนวยกัน ได้แก่ ธุรกิจนำเข้า-ส่งออก และเทรดดิ้งสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ , ธุรกิจบริหารท่าเรือ, ธุรกิจนำเที่ยว และ ธุรกิจค้าเพชร
สำหรับเงินได้ที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้บริษัทมีแผนนะนำเงินที่ได้ไปพัฒนานิคมฯ แห่งใหม่ในประเทศกัมพูชา บริเวณปอยเปต พื้นที่ 70 เฮกตาร์ คาดว่าจะเริ่มเปิดขายพื้นที่ได้ในเดือน มี.ค.นี้ ซึ่งจะมีการร่วมทุนกับ บริษัท บี กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) ในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคภายในนิคมด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังสนใจการซื้อนิคมฯ แห่งอื่นที่ไม่ประสบความสำเร็จในบริเวณดังกล่าวมาเพื่อนำมาพัฒนาเพิ่มเติมด้วย และ บริษัทยังมีแผนลงทุนตั้งนิคมอุตสาหกรรมใน สปป.ลาว บริเวณสวรรณเขต ซึ่งเป็นชายแดนทางด้านจังหวัดมุกดาหารของไทย พื้นที่ราว 150 เฮกตาร์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน
ลก จุมเตียว อ่องญา ลิม ชิว โฮ กล่าวอีกว่า ผลการดำเนินงานในอดีตบริษัทมีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 10-15% หรือมีรายได้ราว 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ/ปี
ด้านนายสมภพ ศักดิ์พันธ์พนม ประธานกรรมการ บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเมนท์ จำกัด (APM) เปิดเผยว่า APM ยังได้รับการติดต่อจากบริษัทเอกชนในกัมพูชาที่สนใจจะให้บริษัททำหน้าที่ที่ปรึกษาทางการเงินในการระดมทุนอีก 2 ราย ได้แก่บริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับท่าเรืออุตสาหกรรม และบริษัทที่ทำธุรกิจเชนร้านกาแฟ โดยสนใจจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยในรูปแบบเดียวกัน คือ Secondary Listing
อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะเห็นความชัดเจนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การปฏิบัติเกี่ยวกับ Secondary Listing จาก ตลท.และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในช่วงกลางปี 61 นี้
พร้อมกันนั้น ยังมีบริษัทหลักทรัพย์ในกัมพูชาที่เข้ามาเจรจาขอเป็นพันธมิตรกับ APM เพื่อเตรียมออกและเสนอขายตราสารหนี้ที่จะออกโดยภาคธุรกิจในกัมพูชาเพื่อมาเสนอขายในประเทศไทย ขนาดระดมทุนราว 50-100 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากทางการไทยเปิดกว้างมากขึ้นสำหรับการออกและเสนอขายตราสารในประเทศทั้งสกุลเงินบาทและสกุลเงินต่างประเทศ
ขณะที่ APM อยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตจัดตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินในกัมพูชา คาดว่าจะได้รับคำตอบภายในเดือน เม.ย.นี้ ซึ่งบริษัทมองเห็นโอกาสทางธุรกิจในกัมพูชาที่ยังมีความต้องการระดมทุนอีกมาก ทั้งในตลาดทุนและตลาดตราสารหนี้ ขณะที่บริษัทเองได้รุกขยายธุรกิจมาสู่ประเทศในกลุ่ม CLMV มาหลายปีแล้ว ทำให้มีความชำนาญในตลาดดังกล่าวค่อนข้างมาก