AQUA ยื่นฟ้องแพ่ง-อาญา"ชูวิทย์-ช่อง 3"เรียกค่าเสียหาย 333 ลบ.หมิ่นประมาทโยงอาบอบนวดดังเอี่ยวค้ามนุษย์-ฟอกเงิน

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 31, 2018 17:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายณัฐพล ชิณะวงศ์ ทนายตัวแทน บมจ.อควา คอร์เปอเรชั่น (AQUA) ได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนเข้ายื่นฟ้องสถานีโทรทัศน์ช่อง 3 พร้อมด้วยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ พร้อมด้วยผู้บริหารและผู้เกี่ยวข้องอื่น ๆ กรณีที่กล่าวข้อความและแสดงผังผ่านรายการทางโทรทัศน์ในทำนองว่า AQUA กี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ มีกลุ่มธุรกิจสถานอาบอบนวดเข้ามาถือหุ้น มีการฟอกเงิน-ปั่นหุ้น และเป็นกลุ่มทุนสนับสนุนธุรกิจของผู้ถือหุ้นในสถานบันเทิง เรียกค่าเสียหายเบื้องต้นที่มูลค่า 333 ล้านบาท

AQUA ได้ยื่นฟ้องคดีอาญา 10 ราย โดยมีจำเลยที่ 1 คือ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด พร้อมพวกอีก 9 รายประกอบด้วย นายประวิทย์ มาลีนนท์, นายประชุม มาลีนนท์, นางสาวรัตนา มาลีนนท์, นางสาวนิภา มาลีนนท์, นางสาวอัมพร มาลีนนท์, นางรัชนี นิพัทธกุศล, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์, นางสาวพิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ และ นายภาษิต อภิญญาวาท

ส่วนคดีแพ่งฟ้อง 15 ราย โดยมี บมจ.บีอีซี เวิลด์ (BEC) เป็นจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 2 คือ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ส่วนจำเลยที่เหลือ ได้แก่ นายประวิทย์ มาลีนนท์, นายประชุม มาลีนนท์, นางสาวรัตนา มาลีนนท์, นางสาวนิภา มาลีนนท์, นางสาวอัมพร มาลีนนท์, นางรัชนี นิพัทธกุศล, นายสมประสงค์ บุญยะชัย, นายแมทธิว กิจโอธาน, นายวรวรรธน์ มาลีนนท์, นายทศพล มาลีนนท์, นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์, นางสาวพิชญทัฬห์ จันทร์พุฒ และ นายภาษิต อภิญญาวาท

นายณัฐพล กล่าวว่า AQUA ในฐานะโจทก์ ประกอบธุรกิจหลักประเภทให้เช่าป้ายโฆษณาและจัดทำสื่อโฆษณา การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ยื่นฟ้องจำเลยทั้งหมด เนื่องจากระหว่างวันที่ 17-23 ม.ค.61 ในรายการ“เรื่องเล่าเช้านี้”ทางช่อง 3 ช่วง“ชูวิทย์มีเรื่องเล่า”มีเนื้อหาในลักษณะกล่าวหาว่าบริษัทมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับธุรกิจสถานอาบอบนวดที่เป็นธุรกิจส่วนตัวของนายกำพล วีระเทพสุภรณ์ ซึ่งเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายหุ้นหนึ่งใน AQUA

ผู้ดำเนินรายการได้เผยแพร่แผนฟังและข้อความในทำนองว่า AQUA มีส่วนในกิจการอาบอบนวด, การค้ามนุษย์ และการฟอกเงิน โดยกระทำการผ่านบริษัทฯ ซึ่งข้อกล่าวหาดังกล่าวล้วนแต่เป็นความเท็จและเป็นการใส่ความหมิ่นประมาทบริษัทฯ ทำให้บริษัทฯซึ่งเป็นบริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ประกอบธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย ได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง ไม่ว่าจะเป็นราคาหุ้นที่ตกลงอย่างมาก ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ ความน่าเชื่อถือ ความนับถือและความไว้วางใจในการประกอบอาชีพและการติดต่อธุรกิจได้รับความกระทบกระเทือน รวมถึงถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

ดังนั้น บริษัทจึงต้องดำเนินการทางกฏหมายเพื่อเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว โดยยื่นฟ้องทั้งในส่วนของผู้ที่กล่าวข้อความและผู้ควบคุมดูแลการออกอากาศ ซึ่งบริษัทเห็นว่ามีหน้าที่ต้องพิจารณากลั่นกรองเนื้อหาการนำเสนอข่าวก่อนแพร่ภาพและเสียง แต่กลับไม่ระงับยับยั้งการออกอากาศ

"นายกำพลเป็นเพียงผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัทฯ ซี่งไม่ได้มีอำนาจบริหาร ไม่ได้เป็นกรรมการ หรือผู้มีอำนาจของบริษัทใดๆทั้งสิ้น การกล่าวข้อความและแสดงแผนผังผ่านรายการโทรทัศน์ มีจำนวนหลายครั้ง ต่อเนื่องกันหลายวัน บริษัทโดยมติของคณะกรรมการ จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป และขอยืนยันว่าทางบริษัทไม่ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องหรือการถือหุ้นในสถานบริการอาบอบนวดแต่อย่างใด"นายณัฐพล กล่าว

ทั้งนี้ แผนกงานรับฟ้องของศาลรับคดีไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ 326/2561 และนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 28 พ.ค.61 เวลา 9.00 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ