BAY ตั้งเป้าสินเชื่อช่วง 3 ปี (61-63) โตเฉลี่ย 7-9% มองศก.ไทยฟื้น ,ตั้งสำรองปี 61 ไม่ต่ำกว่าปีก่อน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday February 1, 2018 16:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารตั้งเป้าอัตราการเติบโตของสินเชื่อในช่วง 3 ปี (ปี 61-63) เฉลี่ยโต 7-9% โดยมองแนวโน้มการขยายตัวของสินเชื่อเป็นการเติบโตที่มากกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย โดยธนาคารมองแนวโน้มของเศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวและเติบโตมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยต่างๆที่ช่วยหนุนเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวขึ้น รวมถึงการลงทุนต่างๆที่จะเกิดขึ้น ทำให้มองว่าจะช่วยหนุนความต้องการสินเชื่อที่จะขยายตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยในปี 61 ธนาคารตั้งเป้าสินเชื่อรวมเติบโต 6-8%

ส่วนสินเชื่อคงค้างของธนาคาร ณ สิ้นปี 60 อยู่ที่ 1.5 ล้านล้านบาท ประกอบด้วย สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ 6 แสนล้านบาท สินเชื่อลูกค้าธุรกิจเอสเอ็มอี 2.2 แสนล้านบาท และสินเชื่อลูกค้ารายย่อย 7.3 แสนล้านบาท โดยธนาคารยังคงการเป็นผู้นำของสินเชื่อรายย่อยในอุตสาหกรรมในช่วง 3 ปีนี้ โดยจะเพิ่มสัดส่วนสินเชื่อรายย่อยเป็น 50% จากปัจจุบันที่ 47% โดยพอร์ตสินเชี่อรายน่อยที่มีอยู่ 7.3 แสนล้านบาทนั้นแบ่งเป็น สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 3.4 แสนล้านบาท สินเชื่อบ้าน 2.2 แสนล้านบาท และสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต 1.7 แสนล้านบาท

นอกจากนี้แผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ 3 ปี (ปี 61-63) ได้มีการประเมินสภาพแวดล้อมเองปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อการดำเนินงานในระยะต่อไป ผนวกกับความสามารถในการแข่งขันของธนาคารในปัจจุบันที่กรุงศรีเน้นกลยุทธ์การดำเนินงานสำคัญ 3 ประการ คือ การขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม ภายใต้แนวคิด Digital First การสร้างประสบการณ์เหนือระดับเพื่อให้ลูกค้าใช้กรุงศรีเป็นธนาคารหลัก และการเสริมศักยภาพด้านธุรกิจลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ด้านแนวโน้มการตั้งสำรองของธนาคารในปีนี้คาดว่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับปีก่อน ซึ่งธนาคารจะพยายามรักษาระดับอัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพของธนาคาร (Coverage Ratio) ให้ไม่ต่ำกว่า 140% ซึ่งเป็นระดับปัจจุบัน พร้อมกับควบคุมสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในปีนี้ให้อยู่ในระดับไม่ต่ำกว่า 2.5%

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปีนี้ธนาคารคาดว่ามีแนวโน้มที่ดีกว่าปีก่อน ตามการเติบโตของสินเชื่อที่เติบโต 6-8% รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเติบโต 5% และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ระดับ 3.5-3.7% ส่วนการลงทุนด้านเทคโนโลยี (IT) ในช่วง 3 ปี ธนาคารตั้งงบลงทุนไว้ที่ 2 หมื่นล้านบาท โดยในปีนี้จะใช้งบลงทุน IT อยู่ที่ 8.5 พันล้านบาท เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพและศักยภาพการดำเนินงานต่างๆของธนาคาร โดยธนาคารไม่มีนโยบายในการลดสาขาและลดจำนวนพนักงาน แต่จะเป็นการปรับรูปแบบสาขาให้เป็นดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งธนาคารคาดหวังในการลดต้นทุนและช่วยในการเพิ่มรายได้ในระยะยาว "ในการส่งมอบประสบการณ์หนือระดับให้กับลูกค้า กรุงศรีเดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มธุรกิจทั้งด้านลูกค้ารายย่อยและลูกค้าธุรกิจให้มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลมากขึ้น ด้วยการริเริ่มโครงการใหม่ๆ เช่น การปรับโครงสร้างและกระบวนการปฏิบัติงาน การส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพของพนักงาน รวมทั้งนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และกรุงศรียังได้นำดิจิทัลและฟินเทคมาใช้เป็นแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและรูปแบบการให้บริการทางการเงินสำหรับอนาคต"นายโกโตะ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ