สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งพักการให้ความเห็นชอบผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์สังกัดธนาคารกสิกรไทย (KBANK) 2 ราย ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบและรอบคอบเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพที่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ ได้แก่ (1) นางสาวศิริวรรณ สุขะตา และ (2) นางสาวสุภารัตน์ นิสภา
ก.ล.ต.ได้รับข้อมูลการรายงานจากธนาคารกสิกรไทยแล้วตรวจสอบเพิ่มเติมพบว่า นางสาวศิริวรรณ ลงนามในใบสั่งซื้อหน่วยลงทุนโดยไม่ได้ติดต่อและให้คำแนะนำแก่ลูกค้า ซึ่งนางสาวศิริวรรณยอมรับว่าได้ลงนามในใบสั่งซื้อหน่วยลงทุนดังกล่าว โดยไม่ได้แนะนำรายละเอียดเกี่ยวกับกองทุนให้ลูกค้าทราบ ก.ล.ต.จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ เป็นเวลา 40 วัน มีผลไปแล้วตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.60
กรณีนางสาวสุภารัตน์ มีการกระทำในลักษณะเดียวกัน โดยลงนามในใบสั่งซื้อหน่วยลงทุนของลูกค้า ทั้งที่ไม่ได้ติดต่อและให้คำแนะนำแก่ลูกค้าเช่นเดียวกัน โดยลูกค้าได้รับการติดต่อและแนะนำจากพนักงานรายอื่นซึ่งไม่ได้เป็นผู้ได้รับความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุน โดยทำให้ลูกค้าสำคัญผิดว่าเป็นการฝากเงิน เพราะมีการเขียนอัตราผลตอบแทนและระยะเวลาการลงทุนที่หน้าสมุดบัญชีกองทุน ก.ล.ต. จึงสั่งพักการให้ความเห็นชอบเป็นผู้แนะนำการลงทุนด้านหลักทรัพย์ เป็นเวลา 2 เดือน และ ก.ล.ต. จึงห้ามนางสาวสุภารัตน์ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้จัดการสาขาของธนาคารในส่วนของธุรกิจตลาดทุนในระยะเวลาเดียวกัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561
จากกรณีข้างต้น ก.ล.ต. ได้รับความร่วมมือจากธนาคารกสิกรไทย ซึ่งภายหลังจากการเกิดกรณีดังกล่าว ธนาคารได้มีการกำหนดให้ผู้แนะนำการลงทุนเท่านั้นเป็นผู้ติดต่อและให้คำแนะนำแก่ลูกค้าได้
พร้อมกันนี้ ก.ล.ต. ได้ซักซ้อมผู้ประกอบธุรกิจทุกราย ให้กำชับผู้แนะนำในสังกัด ซักถามและรวบรวมข้อมูลลูกค้าให้เพียงพอที่จะรู้จักและวิเคราะห์ความต้องการ เงื่อนไขส่วนตัว และระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของลูกค้า จึงค่อยเสนอกองทุนที่เหมาะสม โดยต้องอธิบายด้วยว่าเหตุใดกองทุนดังกล่าวจึงเหมาะสม และควรเสนอลูกค้ามากกว่า 1 กองทุน เพื่อให้ลูกค้ามีทางเลือก รวมทั้งหากสามารถติดตามผลการลงทุนของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอและแจ้งให้ลูกค้าทราบเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงก็จะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุนของลูกค้า