หุ้น WP ปิดเทรดวันแรกที่ 12.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 1,484.69 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 15.40 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.20 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 11.90 บาท
พร้อมรายการบิ๊กล็อต 1 รายการ จำนวน 483,074 หุ้น มูลค่าซื้อขาย 5.94 ล้านบาท เทรดในราคาเฉลี่ยหุ้นละ 12.30 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯหุ้น บมจ.ดับบลิวพี เอ็นเนอร์ยี่ (WP) แนะนำให้นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง เนื่องจากในการเข้าซื้อขายวันแรกหุ้นจะไม่มีกรอบราคา โดยถ้าเทียบกับคู่แข่งที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน เช่น บมจ.สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) (มีส่วนแบ่งการตลาดราว 11%) ซึ่งซื้อขายที่ PER ราว 10 เท่า จะเทียบเท่าราคาของ WP ที่ประมาณ 3 บาท (EPS ย้อนหลัง 12 เดือนที่ 0.29 บาท) และตลาดให้มูลค่าที่เหมาะสมของ WP ที่ 4.63-8.50 บาท
WP เป็นบริษัทซึ่งเกิดขึ้นจากการควบระหว่าง บริษัท เวิลด์แก๊ส (ประเทศไทย) จำกัด (WG) กับ บมจ.ปิคนิค คอร์ปอเรชั่น (PICNI) โดยประกอบธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ภายใต้เครื่องหมายการค้า "เวิลด์แก๊ส" โดยมุ่งเน้นศักยภาพในการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ (upstream) และการขยายศักยภาพในการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกภาคธุรกิจ อันได้แก่ สถานีบริการก๊าซ LPG, โรงบรรจุก๊าซ, ร้านค้าก๊าซ, กลุ่มพาณิชยกรรม และกลุ่มอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีโรงแยกก๊าซ 7 แห่ง คิดเป็นสัดส่วนราว 57% ของการจัดหาวัตถุดิบ และสวนที่เหลือซื้อจากโรงกลั่นภายในประเทศและนำเข้า และมีส่วนแบ่งการตลาดราว 20%
โดยบริษัทมาจากการควบระหว่าง WG และ PICNI ซึ่งในช่วงปี 2546 - 2548 บริษัท PICNI ได้มีประเด็นเรื่องการทำสัญญาและการรับรู้รายได้เท็จ ทำให้ผลประกอบการออกมาสูงกว่าความเป็นจริง และเป็นเรื่องการทำหน้าที่โดยทุจริตรวมถึงยักยอกเงินของบริษัทโดยผู้บริหารชุดเดิม ต่อมาได้มีการขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายในปี 2551 และในภายหลัง WG ได้เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่มทุนของ PICNI ทำให้พ้นจากการล้มละลาย และผู้บริหารชุดปัจจุบันไม่มีความเกี่ยวข้องหรือความสัมพันธ์กับผู้บริหารชุดเดิม
นายกนกศักดิ์ ปิ่นแสง ประธานกรรมการบริหาร และรักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ WP กล่าวว่า นักลงทุนให้การตอบรับการกลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ของหุ้น WP อย่างคึกคักในวันนี้ โดยเชื่อว่าด้วยด้วยศักยภาพความเป็นผู้เชี่ยวชาญในธุรกิจค้า LPG เป็นเวลากว่า 38 ปี และอุตสาหกรรมยังมีโอกาสขยายตัวได้อีกมากตามความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้น เมื่อผนวกเข้ากับรายได้และกำไรที่เติบโตในช่วงที่ผ่านมาและในอนาคต น่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว และจะเป็นหุ้นอีกหนึ่งบริษัทที่มีการเติบโตได้อย่างมีศักยภาพ
ส่วนภาพรวมธุรกิจของ WP ในปี 61 คาดจะมีแนวโน้มเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนคือความต้องการใช้ LPG ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากในภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ซึ่งจะทำให้ตลาดก๊าซ LPG กลับมาคึกคักได้อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ WP ยังมีโครงการที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นแผนสร้างคลังสินค้าแห่งใหม่เพื่อให้สามารถรองรับความต้องการใช้ก๊าซที่ครอบคลุมทั่วประเทศจากปัจจุบันมีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดฉะเชิงเทรา ที่อำเภอบางปะกง แบ่งเป็น 2 เฟส (อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 1 เฟส),จังหวัดขอนแก่น ที่อำเภอบ้านแฮด 1 แห่ง และที่อำเภอท่าพระ 1 แห่ง, จังหวัดสมุทรสงคราม ที่อำเภอบางจะเกร็ง 1 แห่ง และที่อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง 1 แห่ง เพื่อให้ครอบคลุมฐานลูกค้าทุกภาคธุรกิจอันได้แก่ สถานีบริการก๊าซ LPG,โรงบรรจุก๊าซ,ร้านค้าก๊าซ,กลุ่มพาณิชยกรรม และกลุ่มอุตสาหกรรม โดยบริษัทมีเป้าหมายที่จะเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจค้าก๊าซปิโตรเลียมเหลวของประเทศ และ มุ่งเน้นการขยายตลาดไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านมากขึ้น