นายวรวิทย์ เลิศบุษศราคาม รองผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายโรงงาน บมจ.ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ (TPIPP) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4/60 บริษัท สามารถเดินเครื่องจักรโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะและโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนทิ้งได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นที่น่าพอใจ หลังซ่อมบำรุงเพิ่มประสิทธิภาพตามแผนงาน ส่งผลให้อัตราการผลิตไฟฟ้าเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าทุกแห่งปรับตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน โรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินและพลังงานเชื้อเพลิงจากขยะ (TG 7) กำลังการผลิตติดตั้ง 70 MW ได้เริ่มเดินเครื่องจักรและจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ บมจ.ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค.ปีที่ผ่านมา
ในไตรมาส 4/60 คาดว่าจะทำสถิติผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าได้สูงสุดอีกครั้ง โดยมีปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวมทั้งสิ้นประมาณ 232 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้นประมาณ 26.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3/60 ที่มีปริมาณการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวมประมาณ 184 ล้านหน่วย และเพิ่มขึ้นประมาณ 28.6% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/59 ที่มีปริมาณผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ารวม 180.4 ล้านหน่วย
นอกจากนี้ บริษัทคาดว่าจะได้รับผลดีจากการที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าเอฟทีงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.60 อีก 8.87 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งจะช่วยเกื้อหนุนอัตราการเติบโตของผลการดำเนินงานไตรมาส 4/60 และภาพรวมปี 60
"หลังจากที่ปิดปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักรแล้วเสร็จตามแผนงาน ส่งผลให้อัตราการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าปรับเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจ สะท้อนถึงความสามารถการบริหารจัดการที่ดี และในปี 61 เรามีเป้าหมายจะเพิ่มอัตราการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าทุกแห่งที่ดียิ่งขึ้นอีก เพื่อสร้างผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป" นายวรวิทย์ กล่าว