ทริสฯ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ THANI วงเงินไม่เกิน 2.4 พันลบ. ที่ระดับ "A-/Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday February 7, 2018 16:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ชุดปัจจุบัน ของ บมจ.ราชธานีลิสซิ่ง (THANI) ที่ระดับ"A-"ขณะเดียวกันยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,400 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "A-" ด้วย

อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจของบริษัทที่ได้รับแรงเสริมจากสถานะทางการตลาดและผลประกอบการทางการเงินที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงคณะผู้บริหารของบริษัทที่มีประสบการณ์สูงในธุรกิจสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วและรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ รวมถึงขั้นตอนการปฏิบัติงานและระบบบริหารความเสี่ยงที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงการได้รับการสนับสนุนทั้งในด้านธุรกิจและการเงินจากธนาคารธนชาต ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทด้วย อันดับเครดิตของบริษัทได้รับการปรับเพิ่มขึ้นจากอันดับเครดิตเฉพาะของบริษัท เนื่องจากทริสเรทติ้งเห็นว่าบริษัทเป็นบริษัทลูกที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของธนาคารธนชาต อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนบางส่วนจากความกังวลเกี่ยวกับการแข่งขันที่รุนแรง ตลอดจนคุณภาพสินเชื่อของบริษัท และการพึ่งพิงรายได้จากสินเชื่อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก

THANI เน้นการให้บริการสินเชื่อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์มาตั้งแต่ปี 2549 โดยสินเชื่อในกลุ่มนี้คิดเป็นเกือบ 70% ของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์คงค้างของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทจัดว่าเป็นผู้นำตลาดในสินเชื่อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์ อย่างไรก็ดี การพึ่งพิงสินเชื่อรถบรรทุกเพื่อการพาณิชย์เป็นหลักทำให้บริษัทมีความเสี่ยงจากการกระจุกตัวในธุรกิจดังกล่าว จากผลการดำเนินงาน ณ สิ้นปี 2560 ที่ยังไม่ได้ผ่านการตรวจสอบปรากฏว่าสินเชื่อรวมของบริษัทเพิ่มขึ้น 18% โดยคิดเป็น 40,451 ล้านบาท

ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,126 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปี 2559 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นจาก 2.8% ในปี 2559 เป็น 3.1% ในปี 2560 ทั้งนี้ กำไรที่ปรับเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงนั่นเอง

คุณภาพสินทรัพย์ของบริษัทยังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (ค้างชำระมากกว่า 3 เดือน) ต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ระดับ 4.1% ณ สิ้นปี 2560 ลดลงจาก 4.4% ณ สิ้นปี 2559 การที่บริษัทมีสถานะเป็นบริษัทลูกที่มีความสาคัญในเชิงกลยุทธ์ของธนาคารธนชาตทำให้ทริสเรทติ้งลดความกังวลเกี่ยวกับสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทลงไป

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" ของบริษัทสะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงสถานะทางการตลาดในภาคธุรกิจเป้าหมายของบริษัทเอาไว้ได้ โดยคณะผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ตลอดจนประสิทธิภาพการดำเนินงานที่ปรับปรุงดีขึ้น และการสนับสนุนจากธนาคารแม่จะช่วยสนับสนุนให้บริษัทบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้ คุณภาพสินเชื่อคาดว่าน่าจะควบคุมได้และคงอยู่ในระดับที่รับได้ นอกจากนี้ ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทก็คาดว่าจะยังคงดีอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่การสนับสนุนจากธนาคารแม่ เช่น การให้สินเชื่อเงินกู้เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนก็คาดว่าน่าจะยังคงดำเนินต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง ได้แก่ อันดับเครดิตของบริษัทอาจปรับเพิ่มขึ้นได้หากบริษัทสามารถพัฒนาสถานะทางธุรกิจและการเงินเพิ่มขึ้นได้อย่างมีนัยสำคัญ ในทางกลับกันอันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจถูกปรับลดลงหากสถานะทางการตลาดและคุณภาพสินเชื่อของบริษัทอ่อนแอลงอย่างต่อเนื่อง หรือสถานะความเสี่ยงและโครงสร้างเงินทุนของบริษัทถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของระดับการสนับสนุนจากธนาคารแม่ที่มีต่อบริษัท หรือการเปลี่ยนแปลงสถานะของบริษัทในการเป็นบริษัทย่อยที่มีความสาคัญในเชิงกลยุทธ์ต่อธนาคารแม่อาจมีผลกระทบต่ออันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทได้ในอนาคต


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ