น.ส.ปาหนัน โตสุวรรณถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ (BEM) คาดว่า รายได้รวมของบริษัทในปี 61 จะเติบโตมากกว่า 10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเติบโตของรายได้ธุรกิจรถไฟฟ้า ขณะที่รายได้จากธุรกิจทางด่วนคงเติบโตไม่มากนัก ภายใต้คาดการณ์ปริมาณจราจรบนทางด่วนจะเพิ่มขึ้น 2% และรายได้เติบโต 2% ขณะที่รายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้า เชื่อว่าจะเติบโตมากกว่า 10% ส่วนภาพรวมกำไรในปีนี้จะเติบโตตามทิศทางเดียวกับรายได้
ในปีนี้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 35% จากปีก่อนอยู่ในระดับ 30% ขณะที่สัดส่วนรายได้จากธุรกิจทางด่วนลดสัดส่วนมาที่ 60% จากปีก่อน 65% และแนวโน้มจะทยอยลดลงอีก แต่รายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้าจะเพิ่มมากขึ้น ส่วนธุรกิจการบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์ภายใต้ บริษัท แบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) จะทรงตัวที่ 5% ขณะที่บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ในเร็วๆ นี้เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ
นายสมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ BEM กล่าวว่า รายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้าในปีนี้น่าจะได้รับผลดีจากจำนวนผู้โดยสารที่คาดจะเพิ่มขึ้น 5-6% จากปีก่อนมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 3 แสนเที่ยว/วัน โดยในช่วงวันศุกร์มีจำนวนผู้โดยสารสูงสุดเฉลี่ยแตะ 4 แสนเที่ยว/วัน
นอกจากนี้ BEM เตรียมจะปรับขึ้นค่าโดยสารอีกเล็กน้อย แต่ยังอยู่ภายใต้กรอบ 16-42 บาท/เที่ยว โดยจะเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 1 บาท/เที่ยวในการเดินทางสถานีที่ 5 สถานีที่ 8 และ สถานีที่ 11 รวมทั้งการเดินทางเฉลี่ยเพิ่มจาก 5 สถานีเป็น 6 -7 สถานี ซึ่งจะทำให้รายได้ต่อหัวเพิ่มขึ้นหลังจากที่เชื่อมสถานีบางซื่อของสายสีน้ำเงิน และสถานีเตาปูนของสายสีม่วง ที่เริ่มเห็นการเดินทางยาวขึ้นเมื่อปลายปีที่แล้ว และปีนี้จะรับรู้เต็มที่ตลอดปี
นายสมบัติ กล่าวอีกว่า ธุรกิจรถไฟฟ้าขยายตัวต่อเนื่องโดยในปี 61 จะเปิดเดินรถส่วนต่อขยายสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ในปี 62 จะเปิดบริการส่วนแรก ช่วงหัวลำโพง-หลักสอง และในปี 63 เปิดอีกส่วนช่วงเตาปูน-ท่าพระ ซึ่งเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งเป็นวงกลม สามารถเชื่อมต่อได้ทุกเส้นทาง
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ตามแนวรถไฟฟ้า สายสีน้ำเงิน อาทิ โครงการ One Bangkok โครงการ Mixed Use ของกลุ่มดุสิตธานี เป็นต้น จะยิ่งทำให้มีจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้นไก้อย่างมาก ดังนั้น หุ้น BEM จึงเป็น Growth Stock และเป็น Dividend Stock เมื่อเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินได้ครบทั้งเส้นทางในปี 63 และทำกำไรได้ดี
นายสมบัติ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทยังสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการระบบรางอื่นๆ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ รถไฟฟ้าสายสีลม โครงการรถไฟความเร็วสูง