บล.เคทีบี (ประเทศไทย) หรือ KTBST ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นไทยวันนี้ (8 ก.พ. ) ว่า ตลาดสหรัฐฯ เมื่อคืนที่ผ่านมาแกว่งตัวในกรอบแคบหลังจากแกนนำรีพับลิกัน-เดโมแครตในวุฒิสภาสหรัฐบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นสนับสนุนงบประมาณรัฐบาลระยะเวลา 2 ปี โดยเนื้อหาในงบประมาณดังกล่าวนั้นจะเน้นด้านงบประมาณการป้องกันประเทศทั้งภายในและภายนอกเป็นส่วนมาก
ทั้งนี้ มองว่าการปรับฐานของดัชนีดาวโจนส์ใกล้จบ ความผันผวนของตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นต่าง ๆ ยังคงถูกกดดันจากความกังวลเรื่องการเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐฯอยู่ อย่างไรก็ตามด้วยปัจจัยในประเทศที่ยังดี จะส่งผลให้ภาพระยะยาวของตลาดหุ้นไทยยังคงดีอยู่ ดัชนีน่าจะยืนเหนือระดับ 1,760-1,780 จุด ได้ และมี downside ที่จำกัด
ด้านปัจจัยภายนอกที่ควรติดตาม คือ ค่าเงินดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบ ส่วนปัจจัยในประเทศ ติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในวันนี้ และการที่กระทรวงคมนาคมเตรียมเสนอรถไฟไฮสปีดเทรน ไทย-ญี่ปุ่น เข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนมี.ค. นี้
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เนื่องด้วยภาพระยะสั้นตลาดยังปรับฐานแต่ไม่ลงลึก จึงมองว่าการปรับตัวลงของดัชนีจะเป็นโอกาสที่ดีในการ "ทยอยซื้อ" การเข้าเก็งกำไร ยังแนะนำเป็นหุ้นที่มีแนวโน้มฟื้นตัว และปัจจัยพื้นฐานอิงกับปัจจัยในประเทศ อาทิ AMATA, CPALL, GLOBAL, KTC, MEGA หรือกลุ่มแบงก์ที่ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในลักษณะเดียวกับตลาด หุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ TMB, BBL และควรพิจารณาหลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี เนื่องจากราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยหุ้นที่แนะนำเชิงกลยุทธ์ได้แก่ THREL , VNT