นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บมจ. ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป (THG) เปิดเผยทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2561 ว่า จะมองโอกาสขยายกิจการทั้งในและต่างประเทศ ได้แก่ ธุรกิจการรักษาพยาบาล การให้คำปรึกษาและรับบริหารโรงพยาบาล การขยายศูนย์หัวใจ รวมถึงจะเร่งพัฒนาโครงการที่อยู่ระหว่างลงทุนให้แล้วเสร็จตามแผนงาน โดยไตรมาส 2/2561 จะลงทุนขยายโรงพยาบาลธนบุรีและโรงพยาบาลธนบุรี 2 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการให้บริการที่ดียิ่งขึ้น คาดว่าจะใช้เงินลงทุนรวมประมาณ 555 ล้านบาท แบ่งเป็น โรงพยาบาลธนบุรีจะก่อสร้างอาคารจอดรถแห่งใหม่สามารถรองรับรถเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 150 คัน ใช้เงินลงทุนประมาณ 120 ล้านบาท และโรงพยาบาลธนบุรี 2 จะก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอกและอาคารผู้ป่วยใน (อาคาร 3) เพื่อขยายพื้นที่ให้บริการผู้ป่วย ใช้เงินลงทุนประมาณ 435 ล้านบาท คาดว่าทั้ง 2 โครงการจะแล้วเสร็จในปี 2563
ขณะเดียวกัน จะขยายธุรกิจศูนย์หัวใจเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่งในต่างจังหวัด จากปัจจุบันที่ดำเนินการรับจ้างเหมาบริหารศูนย์หัวใจให้แก่โรงพยาบาล 3 แห่งทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ โรงพยาบาลบางพลี โรงพยาบาลธนบุรี 2 โรงพยาบาลภัทร และ พร้อมกันนี้มีแผนจะขยายธุรกิจให้คำปรึกษาและรับบริหารโรงพยาบาลในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอีก 1 แห่ง โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อให้คำปรึกษาการจัดตั้งโรงพยาบาลในต่างประเทศ
นพ.บุญ กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการต่อเนื่อง ได้แก่โครงการ JIN Wellbeing County ย่านรังสิต ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงวัยและให้บริการทางการแพทย์อย่างครบวงจร ภายใต้คอนเซปต์เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ ได้รับอนุมัติ EIA และเริ่มการก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัยเฟสแรก (คลัสเตอร์ 1-2) ในไตรมาส 4/2561 ซึ่งปัจจุบันมียอดทำสัญญาจองแล้วประมาณ 100 ยูนิต จาก 2 คลัสเตอร์แรกทั้งหมด 494 ยูนิต ราคาขายเริ่มต้นยูนิตละประมาณ 4-6 ล้านบาท โดยโครงการดังกล่าวได้รับรางวัล Honorable Mention โดยจัดเป็น 1 ใน 7 โครงการที่น่าอยู่และเป็นมิตรต่อผู้อยู่อาศัยและผู้สูงวัยอย่างแท้จริง จาก EFA (Environment for Aging) Magazine ของสหรัฐอเมริกา
ส่วนโครงการพัฒนาโรงพยาบาลศูนย์ฟื้นฟูสุขภาพ ธนบุรี (ถนนบำรุงเมือง) เพื่อเป็นศูนย์รวมบริการด้านสุขภาพแห่งใหม่ในย่านใจกลางเมือง ซึ่งจะมีบริการที่ครอบคลุมทั้งแผนกเฉพาะทางสำหรับตรวจรักษาผู้ป่วยนอก และห้องพักรักษาตัวสำหรับผู้ป่วยพักฟื้น เพื่อรองรับผู้ป่วยในช่วงพักฟื้นแต่ไม่ต้องรับการดูแลที่ซับซ้อนจากโรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลในเครือข่ายและโรงพยาบาลในละแวกใกล้เคียง ซึ่งจะส่งผลดีคือช่วยลดภาระด้านค่าใช้จ่ายของผู้ป่วย และส่งผลให้โรงพยาบาลธนบุรีสามารถรองรับผู้ป่วยหนักได้มากขึ้น ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมปรับปรุงอาคาร คาดว่าจะเริ่มทยอยเปิดให้บริการในไตรมาส 4/2561
ขณะที่โครงการต่างประเทศที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน ได้แก่ โรงพยาบาล Ar Yu International Hospital ขนาด 200 เตียง ในเมืองย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา คาดว่าเริ่มเปิดให้บริการในไตรมาส 2/2561 พร้อมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินการเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นในบริษัทฯ ที่เป็นผู้ดำเนินโครงการดังกล่าวเป็น 40% จากเดิม 10% ซึ่งจะส่งผลดีต่อการเพิ่มสัดส่วนรายได้ต่างประเทศในอนาคต ส่วนโรงพยาบาล Welly Hospital ในเมืองเวยไห่ ประเทศจีน ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นใหญ่ 58% หลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการปลายปีที่ผ่านมา พบว่ารายได้อยู่ในเกณฑ์ที่น่าพอใจจากปริมาณผู้ป่วยนอกที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดเป็นประมาณ 200 คนต่อวัน
"หลังจากเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เรามองโอกาสลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่จะสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าและขยายโครงการที่ดำเนินการต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมาให้แล้วเสร็จตามแผน โดยเชื่อว่าด้วยจุดแข็งของ THG ที่แตกต่างจากผู้ประกอบการโรงพยาบาลรายอื่นๆ โดยเรามีบริการดูแลสุขภาพและรักษาพยาบาลอย่างครบวงจรในราคาที่ประชาชนส่วนใหญ่เข้าถึงได้ จึงทำให้แบรนด์โรงพยาบาลธนบุรีเป็นที่รู้จักและยอมรับ ส่งผลดีต่อการขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ" นพ.บุญ กล่าว