"ในครั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ของโลกกว่า 3,501 แห่ง ได้รับเชิญให้เข้าร่วมในการประเมินความยั่งยืนโดย RobecoSAM โดยแบ่งการประเมินออกเป็น 60 อุตสาหกรรม โดย Gold Class ถือเป็นระดับสูงสุด กล่าวคือเป็นองค์กรชั้นนำที่ให้ความสำคัญต่อการจัดการความยั่งยืน อันเป็นวิธีการหนึ่งในการสร้างมูลค่าให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระยะยาว โดยการบริหารจัดการความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งการสร้างโอกาสต่อธุรกิจภายใต้กระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม"นายอธิคม กล่าว
นายอธิคม กล่าวว่า ปีนี้ RobecoSAM มีมุมมองต่ออุตสาหกรรมการกลั่นและการตลาดน้ำมันและก๊าซว่าเป็นกระบวนการที่สำคัญมากในการเปลี่ยนน้ำมันดิบให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ซึ่งในปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้ต้องเผชิญกับกระแสการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วและคำนึงถึงการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยประเด็นด้านความปลอดภัยและอาชีวอนามัย การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี เป็นสิ่งที่สังคมคาดหวัง เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะส่งผลต่อการกลั่น การควบคุมต้นทุน ตลอดจนการปฏิบัติตามกฎระเบียบและใบอนุญาตต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจ
RobecoSAM มองว่าบริษัทที่เป็นผู้นำคือบริษัทที่สามารถลดผลกระทบและจัดการความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถปรับสมดุลการผลิตผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาดคาร์บอนต่ำในอนาคต โดยการปรับโครงสร้างการลงทุน (Business portfolio) ที่แสดงถึงกลยุทธ์ด้านสภาพภูมิอากาศที่กำลังทวีความสำคัญในอนาคต