นางอุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย (THAI) คาดว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน คาดว่าจะมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) อยู่ที่ 83% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 80% จากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินไปยังประเทศจีน ฮ่องกง และไต้หวัน โดยมีจำนวนที่นั่งเพิ่มขึ้นประมาณ 19,000 ที่นั่ง ซึ่งจะช่วยทำให้ภาพรวม Cabin Factor ในไตรมาส 1/61 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 80% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากการเพิ่มเที่ยวบินในช่วงเทศกาลตรุษจีน และการบริหารจัดการที่ดีขึ้น
ขณะที่ทั้งปี คาดอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) จะเฉลี่ยอยู่ที่ 79% เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่งผลดีต่อรายได้ต่อที่นั่งขยับเพิ่มขึ้น
"ปีนี้บริษัทฯ มีการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพื่อรองรับความต้องการของผู้โดยสาร ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้จากช่วงเทศกาลฯ โตกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเทศกาลฯของปีก่อน"นางอุษณีย์ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างศึกษาการเพิ่มจุดบินใหม่ในสหรัฐฯ เช่น ซานฟรานซิสโก เป็นต้น คาดว่าน่าจะเห็นความชัดเจนได้ในช่วงปลายปีนี้ โดยน่าจะเริ่มทำการบินได้หลังจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐอเมริกา (Federal Aviation Administration - FAA) อนุญาตให้สายการบินของไทยกลับเข้าไปทำการบินตรงไปยังสหรัฐได้ตามเดิม
ส่วนการปรับปรุงเส้นทางการบินในประเทศนั้น ล่าสุด บริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับสายการบินนกแอร์ และสายการบินไทยสมายล์ ให้บริการเที่ยวบินร่วมบริการเส้นทางดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน เพื่อตอบรับนโยบายที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ช่วยเพิ่มรายได้และจำนวนนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง
โดยความร่วมมือครั้งนี้ สายการบินนกแอร์จะเป็นผู้ทำการบิน โดยมีการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ร่วมทำการขายตั๋วโดยสาร ซึ่งเป็นการเพิ่มช่องทางและโอกาสในการจำหน่ายบัตรโดยสาร รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแกร่งในธุรกิจให้กับสายการบินของไทยในตลาดภายในประเทศ ขณะเดียวกันผู้โดยสารของการบินไทยจะได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางไปและกลับจากท่าอากาศยานดอนเมืองสู่แม่ฮ่องสอน บริษัทฯ คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งในไทยและต่างประเทศเข้ามาใช้บริการเส้นทางดังกล่าวอย่างน้อยปีละ 2 หมื่นคน
นางอุษณีย์ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงคมนาคมให้การบินไทยกลับไปทบทวนแผนฟื้นฟูใหม่ รวมถึงแผนการจัดซื้อเครื่องบินใหม่เพื่อทดแทนเครื่องบินเก่า บริษัทฯ คาดว่าจะมีการทบทวนแผนฟื้นฟูให้แล้วเสร็จภายในเดือนก.พ.นี้ และเสนอเข้าที่ประชุมบอร์ดภายในเดือน ก.พ.61 อนึ่ง ตามแผนเดิมการบินไทยจะซื้อเครื่องบินใหม่จำนวน 19 ลำ และไทยสมายล์อีกจำนวน 9 ลำ
นายปิยะ ยอดมณี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) กล่าวว่า บริษัทฯ มีความพร้อมให้บริการเที่ยวบินไป-กลับ ดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน อย่างมาก จากปัจจุบันที่มีเครื่องบินเอทีอาร์ ขนาด 72 ที่นั่ง อยู่ในฝูงบินแล้ว ซึ่งเบื้องต้นคาดจะมีความถี่ในการบินเส้นทางดังกล่าวอยู่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และจะทำการบินในวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ ซึ่งจะเริ่มทำการบินเที่ยวแรกในวันที่ 25 มี.ค.61
ด้านนายฉัตรชัย ปานอยู่ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินไทยสมายล์ กล่าวว่า เที่ยวบินร่วมในเส้นทางดอนเมือง-แม่ฮ่องสอน ไม่เพียงแต่จะช่วยสนับสนุนการท่องเที่ยวขานรับนโยบายเที่ยวเมืองรอง ลดหย่อนภาษี ส่งเสริมการท่องเที่ยวจ.แม่ฮ่องสอน แต่ยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าของไทยสมายล์ ในการเดินทางท่องเที่ยวเปิดประสบการณ์ใหม่ในเมืองที่มีความพิเศษ