ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,800.03 จุด เพิ่มขึ้น 0.58 จุด (+0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 53,849.73 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,806.11 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,797.29 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 547 หลักทรัพย์ ลดลง 775 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 428 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบแคบ โดยดัชนี SET ปรับตัวขึ้นไปก็มีแรงขายออกมา ทำให้ Upside มีจำกัด ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐฯที่สูง คงจะทำให้ไม่มี Fund Flow เข้ามาในช่วงนี้ แต่สภาพคล่องในประเทศที่สูงก็จะช่วยหนุน Downside ตลาดฯได้บ้าง อย่างไรก็ดี มองถัดจากนี้ไป 1 เดือนข้างหน้าดัชนี SET คงจะแกว่งในกรอบ 1,750-1,800 จุด ซึ่งคงจะย่ำฐานชั่วคราวไปก่อน จากความไม่แน่นอนที่ยังมีอยู่
นอกจากนี้ ให้ติดตามตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯที่จะประกาศในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.) ซึ่งตลาดฯคาดเงินเฟ้อทั่วไป 1.9% และเงินเฟ้อพื้นฐาน 1.7% ถ้าออกมาตามคาดก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าออกมาสูงกว่า Bond Yield ก็จะสูงขึ้น และไม่เป็นผลดีต่อตลาดหุ้นด้วย ส่วนในประเทศก็ให้ติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งคงจะไม่มีนัยสำคัญมากนัก โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายต่อไป
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ตามดัชนีดาวโจนส์ที่บวกได้ดีเมื่อคืนที่ผ่านมา
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ก.พ.) นายณัฐชาต กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ในช่วงที่รอดูตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,780 จุด ส่วนแนวต้าน 1,820-1,830 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
AOT มูลค่าการซื้อขาย 3,601.59 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,752.69 ล้านบาท ปิดที่ 488.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,818.43 ล้านบาท ปิดที่ 21.10 บาท ลดลง 0.10 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,666.76 ล้านบาท ปิดที่ 114.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 1,531.28 ล้านบาท ปิดที่ 67.25 บาท ลดลง 1.75 บาท