นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการ บมจ.โรงพิมพ์ตะวันออก (EPCO) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทวานนี้มีมติเห็นชอบและอนุมัติแผนการนำ บมจ.อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป (EP) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 75% เข้าระดมทุนผ่านการเพิ่มทุนจดทะเบียนและเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) และนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยได้กำหนดสัดส่วนจำนวนหุ้นสามัญที่ออกใหม่ที่ EP จะเสนอขายต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกเป็นสัดส่วน 20% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ EP ภายหลังการเพิ่มทุน
โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ได้มีมติอนุมัติให้ EP ให้สิทธิแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในการจองซื้อหุ้น IPO ของ EP ตามสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท (Pre-emptive Right) ในอัตราไม่เกิน 35% ของจำนวนหุ้น IPO ซึ่งแผนการจำหน่ายหุ้น (Spin Off) ครั้งนี้ มีจุดประสงค์ที่จะนำเงินทุนที่ได้รับจากการระดมทุนเพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินและขยายธุรกิจ รวมถึงเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของ EP
สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ของ EP จะเป็นการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 600 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท หรือคิดเป็นทุนจดทะเบียน 300 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,200 ล้านบาท โดยจะจัดสรรหุ้น IPO จำนวน 210 ล้านหุ้น (35%) (Pre-emptive Rights) ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของ EPCO ภายหลังการเพิ่มทุน และบริษัทจะยังคงเป็นผู้ถือหุ้นที่มีอำนาจควบคุมใน EP ในสัดส่วน 60% ของทุนจดทะเบียนภายหลังการเพิ่มทุน ทั้งนี้ การจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จะกระทำได้ต่อเมื่อ EP ได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่จาก กลต.
อนึ่ง EP ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าทั้งสิ้น 435.5 เมกะวัตต์ แบ่งเป็น โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนขนาดกำลังการผลิต 360 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิตรวม 90 ตันต่อชั่วโมง และโครงการโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและโซลาร์รูฟท็อป จำนวน 75.5 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นในประเทศ 24 เมกะวัตต์ และประเทศญี่ปุ่น 45 เมกะวัตต์ และโซลาร์รูฟท็อป 6.5 เมกะวัตต์