นายสามิตต์ ผลิตกรรม รองประธานกรรมการบริหาร บมจ.เอส เอ็น ซี ฟอร์เมอร์ เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่าปี 61 จะมีกำไรเติบโตจากปีก่อน เนื่องจากมองว่าอัตรากำไรสุทธิจะเติบโตราว 0.5-1% จากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 5.29% หลังมีการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงาน แม้ว่ารายได้คงจะทรงตัวจากปีที่แล้ว หลังธุรกิจรับจ้างผลิตชิ้นส่วน (OEM/ODM) ที่มีลูกค้าหลักในตะวันออกกลางสั่งออร์เดอร์ลดลง เพราะได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้า ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นส่งผลกระทบต่อการจำหน่าย Heat pump ของบริษัทย่อย คือ "SAHP"
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้บริษัทตั้งงบลงทุนราว 300 ล้านบาท สำหรับลงทุนในเทคโนโลยีเครื่องจักรระบบอัตโนมัติ รวมถึงปรับเปลี่ยนเครื่องจักรให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะมีเข้ามา
ทั้งนี้ ธุรกิจผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ในปีนี้ค่อนข้างเติบโตได้ดี บริษัทคาดว่าจะมีออเดอร์ชิ้นส่วนยานยนต์ในสหรัฐเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 4/61 แต่ออเดอร์สินค้าประเภทอลูมิเนียมในจีนจะลดลง เนื่องจากจีนมีความต้องการซื้อสินค้าในประเทศมากขึ้น ส่วนธุรกิจชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีคำสั่งซื้อ pipe kit เข้ามาในไตรมาส 1/61 เพื่อส่งออกไปยังออสเตรเลีย และได้คำสั่งซื้อชิ้นส่วนงานเครื่องซักผ้าในระยองด้วย ประกอบกับงานต้นน้ำที่มีออเดอร์ต่อเนื่องมาจากปลายปีที่แล้ว สามารถรองรับการผลิตในปีนี้ด้วย
นายสามิตต์ กล่าวอีกว่า บริษัทยังมีแผนลดภาระหนี้สินจากการกู้ยืมสถาบันการเงินให้เหลือราว 400 ล้านบาท จากปัจจุบันที่มีอยู่ราว 700 ล้านบาท ทำให้คาดว่าอัตราหนี้สินต่อทุนในปีนี้จะอยู่ในระดับที่ 0.6 เท่า จากปัจจุบันอยู่ในระดับ 0.7 เท่า โดยจะใช้เงินจากเงินหมุนเวียนและผลกำไรจากการดำเนินธุรกิจเป็นหลัก พร้อมทั้งคาดว่าบริษัทจะหมดภาระหนี้สินได้ภายในปี 62
ส่วนแผนการลงทุนในโรงไฟฟ้าขยะนั้น นายสามิตต์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการส่งเอกสารให้ภาครัฐเพื่อรอการอนุมัติ คาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้