นายสราวุฒิ พรพัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดู เดย์ ดรีม (DDD) เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทมีแผนขยายฐานลูกค้าและกระตุ้นยอดขาย จากการเพิ่มศักยภาพการจัดจำหน่ายสินค้าไปยังร้านค้าดั้งเดิม (Traditional Trade) ทั่วประเทศ ผ่านการผนึกกำลังกับ ซีโน-แปซิฟิค ซึ่งเป็นผู้นำในการขนส่งและกระจายสินค้าไปยังร้านค้าแบบดั้งเดิมทั่วประเทศไทย มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 40 ปีและได้รับความไว้วางใจจากแบรนด์ชั้นนำของโลกกว่า 70 แบรนด์ให้เป็นผู้กระจายสินค้าในประเทศไทย
นอกจากนี้ ยังจะมีการควบคุมดูแลคุณภาพสินค้าด้วยระบบการจัดเก็บและขนส่งที่มีมาตรฐาน พร้อมด้วยคลังสินค้ารวม 4 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองสำคัญของแต่ละภูมิภาคของประเทศ ประกอบด้วย กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต ส่งผลให้การบริหารจัดการสินค้าและการควบคุมต้นทุนการขนส่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
"การร่วมมือกับ ซีโน-แปซิฟิค นับเป็นการเพิ่มขีดศักยภาพในการเข้าถึงร้านค้าดั้งเดิมซึ่งมีมากกว่า 440,000 ร้านทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่บริษัทจำหน่ายสินค้าผ่านร้านค้าดั้งเดิมเพียง 1,300 ร้านค้า โดยมีสินค้าประเภทซอง (Sachet) เป็นผลิตภัณฑ์หลักในการรุกตลาดร้านค้าดั้งเดิม เนื่องจากมีขนาดเล็กและราคาเข้าถึงได้ง่ายเพียง 39 บาท ตอบรับต่อพฤติกรรมการซื้อและการใช้งานของผู้บริโภคได้อย่างคลอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ซื้อสินค้าผ่านร้านสะดวกซื้อและร้านค้าดั้งเดิมอื่น ๆ"นายสราวุฒิ กล่าว
ปัจจุบัน บริษัทมีผลิตภัณฑ์ประเภทซองเพียง 1 ผลิตภัณฑ์เท่านั้น คือ NAMU LIFE SNAILWHITE DAY CREAM ซึ่งเป็นสินค้าที่ครองตำแหน่งสินค้าที่ขายดีที่สุดอันดับที่ 4 หลังจากวางขายแบบเอ็กคลูซีฟในเซเว่นอีเลฟเว่นเพียงแค่ 2 เดือน ทำให้บริษัทมีแผนที่จะพัฒนาสินค้าอื่น ๆ ในขนาดซองเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อคว้าโอกาสจากตลาด Sachet ในร้านค้าดั้งเดิม สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้า ที่มีขนาดใหญ่ถึง 95.3% ของตลาดผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าทั้งหมด
ปัจจุบัน ช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้าในประเทศของบริษัท ครอบคลุมทั้งร้านค้าสมัยใหม่ (Modern Trade) ร้านค้าดั้งเดิม (Traditional Trade) และการกระจายสินค้าผ่านตัวแทน (Distribution Partner) โดยที่การกระจายสินค้าผ่านตัวแทนและร้านค้าสมัยใหม่ในขณะนี้คิดเป็นสัดส่วน 31.3% และ 28.4% ตามลำดับ ขณะที่รายได้จากการขายผ่านช่องทางร้านค้าดั้งเดิมคิดเป็นสัดส่วนเพียง 3.9% (ข้อมูล ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2560) บริษัทคาดว่าการเจาะกลุ่มตลาดร้านค้าดั้งเดิมผ่านเครือข่ายของ ซีโน-แปซิฟิค จะช่วยให้สามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้จากช่องทางการขายแบบดั้งเดิมให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปี 2561
นอกจากการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้าอื่นๆ แล้ว บริษัทยังมีแผนที่จะเปิด NAMU LIFE Shop เพิ่มในอนาคต บนทำเลยุทธศาสตร์ในแต่ละภูมิภาคของประเทศไทย เช่น พัทยา ภูเก็ต หรือเชียงใหม่ ในจุดที่มีกลุ่มคนทำงานหรือนักศึกษาสัญจรไปมาอย่างหนาแน่น หรือเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวสูง โดยใช้ NAMU LIFE Shop ทำหน้าที่เป็นทั้งป้ายโฆษณาที่สามารถสร้างยอดขายได้จริง อีกทั้งยังเป็นจุดแสดงสินค้า (Product Display) เพื่อดึงดูดให้ลูกค้าที่สนใจเข้ามาทำความรู้จักได้อย่างมีประสิทธิภาพ เห็นได้จาก NAMU LIFE Shop สาขาสถานีบีทีเอสสยามที่สามารถสามารทำยอดขายเฉลี่ยได้สูงราว 1 ล้านบาทต่อเดือน