นายคยอง ฮวา ซง กรรมการผู้อำนวยการใหญ่และประธานคณะกรรมการ บมจ.โพสโค-ไทยน็อคซ์ (INOX) เปิดเผยว่า บริษัทฯ วางแผนการดำเนินงานระยะ 3 ปี (61-63) จะมีรายได้เติบโตแตะ 2.1 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้าหมายปี 61 จะมีรายได้อยู่ที่ 1.67 หมื่นล้านบาท และในปี 62 อยู่ที่ 2 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามความต้องการใช้เหล็กสแตนเลสที่สูงขึ้น และการขยายกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีแผนที่จะลงทุนเครื่องจักร Skin Pass Mill (SPM) จากปัจจุบันที่มีอัตราการใช้กำลังการผลิตเกิน 100% แล้ว ซึ่งคาดว่าในปี 63 จะมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 2.7 แสนตันต่อปี จากปี 60 อยู่ที่ 2 แสนตันต่อปี
ทั้งนี้ การลงทุนดังกล่าวจะทำให้กำลังการผลิตจากเครื่องจักร SPM มีปริมาณเพิ่มขึ้น 6 หมื่นตันต่อปี โดยจะดำเนินการได้ตั้งแต่ปีนี้ และน่าจะสามารถติดตั้งแล้วเสร็จได้ในเดือนม.ค.62 ซึ่งน่าจะทำให้ต้นทุนรวมปรับตัวลดลง 10% อีกทั้งยังมีแผนการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ZRM (เครื่องจักรรีดเย็น) ,HAP,BAL ซึ่งมีส่วนช่วยในการเพิ่มกำลังการผลิตในกระบวนการอบอ่อน
บริษัทฯ วางงบลงทุนรวม 3 ปี ไว้ที่ 40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยแหล่งเงินลงทุนจะมาจากกระแสเงินสด ที่ถือว่ามีเพียงพอต่อการลงทุน จากปัจจุบันที่มีเงินสดในมืออยู่ที่ 100 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
นอกจากนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าปี 63 จะมียอดขายเติบโตแตะ 2.85 แสนตันต่อปี จากปี 60 อยู่ที่ 2.23 แสนตันต่อปี จากการมุ่งเน้นการขายสินค้าระดับ High-end สร้างความต่อเนื่องในการค้ากับบริษัทยานยนต์ Honda,Misubishi ซึ่งผ่านการทดสอบคุณภาพสแตนเลสแล้ว และมุ่งเน้นในการทดสอบคุณภาพเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการจากกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายอื่นๆ เช่นToyota ,Isuzu, Nissan, Mazda เป็นต้น
ขณะเดียวกันบริษัทฯ จะขยายการรองรับอุตสาหกรรมที่ต้องการสแตนเลสในเกรดเฉพาะ เพื่อให้มีความเพียงพอต่อเนื่องในการขายให้แก่อุตสาหกรรมเครื่องใช้ภายในบ้านแก่บริษัท Samsung, LG, Hitachi, Sharp รองรับการขยายตัวของความต้องการของผู้ผลิตฮาร์ดดิสก์ และพัฒนาสแตนเลสเกรดที่เหมาะสมที่สุด ที่จะใช้ในกลุ่ม MMI , NHK, Nidec
ขณะที่บริษัทฯ จะขยายการขายผลิตภัณฑ์ในระดับ World Premium หรือสแตนเลสเกรดที่มีกำไรสูงของ POSCO Group โดยมุ่งเน้นการขายกับตลาดกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นที่มีความต้องการด้านคุณภาพสูงและเป็นผู้ผลิตที่มีความต้องการสินค้าประเภท สินค้ามันเงา ,วัสดุขัดพื้นขั้นสูง เป็นต้น และมีแผนในการกระจายสินค้า World Premium ไปสู่ตลาดใหม่ ๆ เช่น สหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ยังคงมุjงเน้นการทำตลาดในประเทศไทยเป็นหลัก เนื่องจากเป็นตลาดที่ใหญ่และเพียงพออยู่แล้ว โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ในประเทศอยู่ที่ 75% และที่เหลือจะมาจากต่างประเทศ
นายคยอง ฮวา ซง กล่าวว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจาพันธมิตรต่างประเทศ ให้มาร่วมลงทุนในประเทศไทย เพื่อผลิตเหล็กสแตนเลสคุณภาพสูง และเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่นอกเหนือจากลูกค้ากลุ่มยานยนต์
พร้อมกันนี้บริษัทฯ เตรียมเจรจาผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อขอเพิ่ม Freefloat คาดว่าจะสามารถสรุปแนวทางดังกล่าวได้ในครึ่งปีหลังนี้ โดยคาดหวังจะเพิ่มขึ้นเป็นระดับที่เหมาะสม 15% จากปัจจุบันอยู่เพียง 4.95% ส่วนนโยบายการจ่ายปันผล บริษัทฯ ยังคงมีการจ่ายปันผลต่อเนื่อง ตามนโยบายการจ่ายปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิ แต่ในปีนี้จะจ่ายปันผลอัตรา 70% ของกำไรสุทธิ