ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,815.12 จุด เพิ่มขึ้น 9.23 จุด (+0.51%) มูลค่าการซื้อขาย 25,500.06 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดการซื้อขาย โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,819.36 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,811.93 จุด
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้นตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่บวกได้ค่อนข้างดี 0.7% ขึ้นไป และบวกได้มากตลาดหุ้นไทย ส่วนหนึ่งเป็นการตอบรับปัจจัยภายในของแต่ละตลาดฯ เพราะอยู่ในช่วงของการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน และได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ฟื้นตัวขึ้น ทำให้เป็นบวกต่อตลาดเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยด้วย
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราได้รับแรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ที่บวกได้มากกว่าหุ้นขนาดกลาง-เล็ก และวอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมก็ดีขึ้นกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยหุ้นแต่ละตัวที่ปรับตัวขึ้นก็จะมีปัจจัยเฉพาะตัว อย่างหุ้น CPALL ก็ได้แรงหนุนจากการลุ้นเป็น Banking Agent ซึ่งจะเป็นผลดีต่อรายได้ของบริษัท ขณะที่หุ้นที่ทำธุรกิจคล้ายกันอย่าง FSMART ก็จะมีความเสี่ยงจากความกังวลไลเซ่นส์ Banking Agent ทำให้อาจกระทบธุรกิจได้ ส่วนหุ้น PTTEP ก็ได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันฟื้นตัว รวมไปถึงหุ้นขนาดใหญ่บางส่วนก็มีการเล่นเก็งกำไรตามงบฯ
พร้อมให้ติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในครั้งที่แล้ว ซึ่งที่จะมีขึ้นในวันพุธนี้ (21 ก.พ.) ถ้าหากมีสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ที่มากกว่า 3 ครั้งก็จะสร้างความกังวลให้กับตลาดฯได้
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายกิจพณ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะฟื้นตัวในกรอบจำกัด โดยมีแนวรับ 1,810 จุด ส่วนแนวต้าน 1,823 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,413.83 ล้านบาท ปิดที่ 84.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,626.33 ล้านบาท ปิดที่ 492.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,020.02 ล้านบาท ปิดที่ 95.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 910.03 ล้านบาท ปิดที่ 69.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 907.24 ล้านบาท ปิดที่ 55.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง