นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 61 เติบโตเป็นประมาณ 2,000 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA คาดว่าไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท เป็นผลจากการเติบโตของทุกธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจด้านเคมีภัณฑ์ ที่มีการนำเข้าและจำหน่ายสารเคมีที่ใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมัน โรงกลั่น และปิโตรเคมี ยังมีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทวางกลยุทธ์ในการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เข้ามาจำหน่าย พร้อมกับรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มขึ้น
สำหรับธุรกิจของบริษัทย่อย ภายใต้ บริษัทยูเอซี แอ็ดวานซ์ โพลิเมอร์ แอนด์ เคมิคัลส์ จำกัด (UAPC) ซี่งดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีภัณฑ์ โดยมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ เคมีภัณฑ์ประเภทลาเท็กซ์อีมัลชั่นและโพลิเมอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หลังจากบริษัทก่อสร้างโรงงานเฟส 2 แล้วเสร็จในช่วงปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปัจจุบัน UAPC มีกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 20,000 ตัน/ปี เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศ CLMV ที่เป็นกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา ส่งผลให้ความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านเคมีภัณฑ์อยู่ในระดับสูง ซึ่งบริษัทตั้งเป้ารายได้ UAPC ในปีนี้ 600 ล้านบาท
พร้อมกันนั้น UAC ตั้งงบประมาณในการขยายการลงทุนไว้ประมาณ 1,000 ล้านบาท/ปี เพื่อเป็นการขยายและต่อยอดธุรกิจในปัจจุบันที่ดำเนินการอยู่ ให้บรรลุเป้าหมายรายได้ปีละ 3,000 ล้านบาทในปี 63
ส่วนผลการดำเนินงานประจำปี 60 สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.60 บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการ1,626.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 302.32 ล้านบาท หรือคิดเป็น 22.82% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิที่ 95.40 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 82.53 ล้านบาท หรือคิดเป็น 641.52% เมื่อเทียบจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 12.87 ล้านบาท ส่งผลให้กำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 353.85 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 67.66 ล้านบาท หรือคิดเป็น 23.64%
ส่วน EBITDA งวดปี 60 อยู่ที่ 296.63 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 104.26 ล้านบาทหรือคิดเป็น 54% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากการรับรู้รายได้จากการลงทุนในธุรกิจการผลิตของบริษัทฯอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทฯมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลดลง 56.98 ล้านบาท และต้นทุนทางการเงินลดลง 2.01 ล้านบาท
นายชัชพล เปิดเผยอีกว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งล่าสุดมีมติจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิ UAC-W2 จำนวน 66.76 ล้านหน่วย ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมฟรีในอัตราส่วน 10 หุ้นเดิม ต่อ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ วันที่ 6 มี.ค.61 และวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่ได้รับสิทธิซื้อใบสำคัญแสดงสิทธิ วันที่ 7 มี.ค.61 มีอายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 2 ปี นับจากวันที่ออกและเสนอขาย ราคาใช้สิทธิที่ระดับ 5.55 บาทต่อหุ้น โดยจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขอมติอนุมัติในวันที่ 4 เม.ย.61