นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจในปี 61 ว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินไว้ที่จำนวน 1,400 ไร่ โดยเชื่อว่าจะยังคงได้รับปัจจัยบวกจากการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในทุกภาคส่วนมากขึ้น และเมื่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ยิ่งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น
เนื่องจาก WHA มีนิคมอุตสาหกรรมครอบคลุมในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ระยอง และสระบุรี หรือคิดเป็นพื้นที่รวม 10,000 ไร่ ซึ่งสามารถรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาลงทุน และยังได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกให้เป็นเขตส่งเสริมเพื่อกิจการอุตสาหกรรมเป้าหมาย จำนวน 9 แห่ง ซึ่งจะทำให้ได้รับประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติมสำหรับลูกค้า 10 อุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย และตอบโจทย์ยุทธ์ศาสตร์ด้านการลงทุนของนักลงทุนต่างประเทศได้เป็นอย่างดี
สำหรับงผลการดำเนินงานงวดปี 60 บริษัทฯมีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในบริษัทและกิจการร่วมค้า 12,410 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมและส่วนแบ่งกำไรฯ ที่ 19,325 ล้านบาท อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 3,266 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 2,898 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นจาก 15% ในปี 59 เป็น 26% ในปี 60
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้กำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาจากความสมดุลของรายได้ประจำ (recurring income) คิดเป็น 49% ของรายได้รวม และอัตรากำไรขั้นต้นในการขายที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอยู่ในระดับที่สูงถึง 51% จากการปรับราคาขายที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของอัตรากำไรขั้นต้นในการขายทรัพย์สินเข้ากองทรัสต์ WHART มาอยู่ที่ 45% ในปีนี้ เนื่องจากการใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินเพื่อซื้อทรัพย์สิน ซึ่งถือเป็นต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่าการระดมทุนจากนักลงทุน
นอกจากนี้รายได้และอัตรากำไรขั้นต้นในธุรกิจสาธารณูปโภคเพิ่มสูงขึ้นกว่าปีก่อนเช่นกัน จากปริมาณการขายและให้บริการน้ำที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการใช้น้ำจากโรงไฟฟ้าที่เริ่ม COD และการเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายน้ำประปาและน้ำอุตสาหกรรมซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่า รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญมากกว่า 33%
นางสาวจรีพร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯยังประสบความสำเร็จในการขายสินทรัพย์เพิ่มเติมเข้ากองทรัสต์ HREIT มูลค่า 1,590 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 ม.ค.61 โดยจะรับรู้รายได้จากการขายในไตรมาสที่ 1 ของปีนี้อีกด้วย