นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (MBKET) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารักษาส่วนแบ่งทางการตลาดปี 61 ให้อยู่ที่ระดับไม่ต่ำกว่า 7-8% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 6.83% เพื่อเป็นโบรกเกอร์อันดับ 1 อย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทยังให้ความสำคัญกับงานวิจัยและ content โดยมีช่องทางที่สามารถให้นักลงทุนได้เข้าถึงอย่างครอบคลุม อาทิ facebook LIVE โดยมองว่าเป็นจุดแข็งของบริษัทที่สามารถแข่งขันในตลาดได้
ด้านธุรกิจวานิชธนกิจ (IB) ปัจจุบันบริษัทมีงานที่ปรึกษาทางการเงินราว 20-26 ดีล แบ่งเป็นการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (IPO ) 13-14 ดีล , จัดตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 1-2 ดีล, จัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน 1-2 ดีล, ซื้อกิจการ (M&A) 3-4 ดีล, ออกหุ้นเพิ่มทุน 1-2 ดีล และงานที่ปรึกษาการเงินอิสระ 1-2 ดีล ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าในปี 61 จะนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 5-7 ราย มูลค่าระดมทุนรวมกว่าหมื่นล้านบาท
ทั้งนี้ นายมนตรี มองว่า การที่เสียบุคลากรไปราว 200 คนในช่วงก่อนหน้านี้ มาจากความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มพนักงาน ไม่ได้มาจากสาเหตุที่ไม่พอใจสวัสดิการของบริษัทแต่อย่างใด และบริษัทยังมีศักยภาพในการบริการลูกค้าได้ โดยมีบุคลากรอยู่อีกราว 700-800 คน
นอกจากนี้ บริษัทมีแผนขยายธุรกิจอื่น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ในการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ อาทิ ตราสารหนี้, ใบสำคัญแสดงสิทธิอนุพันธ์ (DW) ที่อ้างอิงดัชนี SET50 เป็นหลัก รวมถึง Structured notes และ Equity-linked notes ที่คาดว่าจะทยอยเปิดให้บริการในไตรมาส 2/61
สำหรับการแต่งตั้งผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) คนใหม่นั้น นายมนตรี กล่าวว่า ผู้สมัครทุกคนมีความสามารถและคุณสมบัติที่เพรียบพร้อมทุกคน ซึ่งนายภากร ปีตธวัชชัย ก็มีประสบการณ์ในตลาดหุ้นมาค่อนข้างมาก คาดว่าสามารถขับเคลื่อนตลาดหุ้นให้เติบโตได้ดี จากที่ได้ศึกษาพัฒนาการมาตลอดเชื่อว่าจะรักษา momentum ของตลาดหุ้นไทยให้เติบโตไปได้ และรักษา demand-supply รวมถึงความน่าสนใจของตลาดหุ้นไทยได้
ขณะเดียวกันก็คาดหวังว่าจะได้เห็นตราสารชนิดใหม่ ๆ เข้ามาในตลาดเพื่อการลงทุน จากการร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจหลักและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)